ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดช่วงเช้าวันนี้ (22 ตุลาคม) ปรับตัวร่วงลงหนักสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น และดาวโจนส์ดิ่งลงในช่วงที่ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 537.27 จุด หรือ 3.2% ลงมาปิดที่ 16,277.10 จุด โดยแตะจุดต่ำสุดที่ 16,264.70 จุด มีหุ้นรูดลงถึง 1,611 หุ้น ขณะที่บวกขึ้นเพียง 76 หุ้น และไม่เปลี่ยนแปลง 32 หุ้น บรรดารัฐมนตรีกระทรวงการคลังจี 7 และผู้ว่าการธนาคารกลางกล่าวว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงิน รวมทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงและภาวะอ่อนตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐมีแนวโน้มที่จะฉุดให้เศรษฐกิจโลกโตในระดับปานกลางจากปัจจุบันที่เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง "ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐนั้นมีจำนวนมากขึ้น หลังจากที่บริษัทต่างๆได้รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสินเชื่อตึงตัว" คาซุฮิโระ ทากาฮาชิ ผู้จัดการทั่วไปหลักทรัพย์ประจำ ไดวะ ซีเคียวริตี้ส์ เอสเอ็มบีซี กล่าว นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงจากปัจจัยลบขนาบทั้ง 2 ด้านได้แก่ ความเป็นไปได้มากขึ้นที่การส่งออกของญี่ปุ่นจะร่วงลง และค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นสร้างความวิตกเกี่ยวกับความสามารถในการทนทานความเสี่ยงที่ลดลง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทรุดลงทั่วทั้งกระดานเนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกได้รับผลกระทบจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเคลื่อนไหวที่ราว 113.58 เยน/ดอลลาร์ ในช่วงเช้าที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว จากระดับ 114.50 เยน/ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา