ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (19 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับบรรยากาศการซื้อในตลาดที่ซบเซา หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการจำกัดเม็ดเงินไหลเข้าที่ผิดกฎหมายจากจีน หุ้นไชน่า เทเลคอม และไชน่า เน็ทคอมได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากหุ้นทั้งสองบริษัทได้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่มีรายงานว่า จีนจะอนุญาตให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านสามารถเข้าลงทุนในธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ อย่างไรก็ตาม การปรับลดของดัชนีฮั่งเส็งน่าจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากหุ้นกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง ได้ดีดตัวขึ้น อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในสหรัฐและฮ่องกง ดีลเลอร์กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายอาจยังคงผันผวนในระยะอันใกล้นี้ เนื่องจากนักลงทุนยังมีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนเรื่องเม็ดเงินไหลเข้าจากจีน มาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจ และแนวโน้มตลาดสินเชื่อและเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัว สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดร่วง 154.26 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 27,460.17 จุด โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 27,300.29 จุด และ 27,801.53 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.03 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ไชน่า เอ็นเตอร์ไพรส์ ร่วงลง 202.56 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 16,535.17 จุด หุ้นไชน่า เทเลคอม ปิดเพิ่มขึ้น 0.24 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.61% ขณะที่หุ้นไชน่า เน็ทคอม เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 5.49% "ตลาดยังไร้ทิศทาง เนื่องจากนักลงทุนทีท่าทีวิตกกังวลเล็กน้อย หลังจากที่ดัชนีได้ปรับฐานร่วงลงอย่างหนักเมื่อไม่นานมานี้" เคนนี่ ถัง หัวหน้านักวิจัยจากทัง ไต๋ ซิเคียวริตี้ส์กล่าว ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 1,136 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดในปีนี้ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าธนาคารพาณิชย์ต่างๆในมณฑลเสิ่นเจิ้นได้มีคำสั่งจำกัดการถอนเงินจากธนาคารในเสิ่นเจิ้น เพื่อป้องกันมิให้เม็ดเงินผิดกฎหมายไหลออกจากจีนไปยังฮ่องกง นายถังกล่าวว่า มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างจะต่ำลงในวันนี้ เนื่องจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเม็ดเงินไหลออกจากจีน และมาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้ จีนคาดการณ์ว่าจะประกาศมาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจรอบใหม่ในเร็วๆนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ในเดือนต.ค.ซึ่งเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างแรงกดดันให้กับดัชนีราคาผู้บริโภคและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นายถังกล่าวว่า นักลงทุนไม่อยู่ในบรรยากาศที่อยากจะซื้อขาย ท่ามกลางตลาดที่ขาดปัจจัยบวกเช่นนี้ "มาตรการสกัดกั้นการโอนถ่ายเงินโดยผิดกฎหมายในมณฑลเสิ่นเจิ้นได้เพิ่มความวิตกกังวลว่า จีนอาจกำหนดใช้มาตรการอื่นๆ เพื่อจำกัดเม็ดเงินไหลออก" เขากล่าว นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า อันเป็นผลมาจากการตบแต่งบัญชีช่วงสิ้นปี หุ้นกลุ่มบลูชิพปรับตัวลดลง โดยหุ้นไชน่า โมบาย ลดลง 1.40 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.05% หุ้น HSBC ขยับลง 0.70 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 0.51% หุ้น HKEx ลดลง 5.4 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 2.3% หุ้นไชน่า ไลฟ์ ลดลง 0.85 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.96% และหุ้นฮัทชิสัน วัมเปา ขยับลง 0.25 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 0.28% ดีลเลอร์กล่าวว่า หุ้นไชน่า โมบายที่ปรับตัวลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สถานะอันโดดเด่นของบริษัทในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในจีนอาจลดลง หากผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าลงทุนในธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ นายซี กัวหัว รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมสื่อสารของจีนกล่าวว่า รัฐบาลจีนเตรียมอนุญาตให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านสามารถเข้ามาลงทุนในธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ในเร็วๆนี้ หุ้นกลุ่มการเงินจีนปรับตัวลดลง โดยหุ้นไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ ขยับลง 0.13 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.75% หุ้นแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่น ขยับลง 0.08 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 0.66% ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นฮั่งเส็ง แบงค์ ลดลง 1.70 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.17% หุ้นแบงค์ ออฟ อีสท์ เอเชีย เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 3.99% และหุ้นบีโอซี ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 0.14 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 0.71% หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น หุ้นชวงกง เพิ่มขึ้น 0.9 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 0.65% หุ้นซัน ฮุง ไก เพิ่มขึ้น 2.90 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 2.01% ขณะที่หุ้นเฮนเดอร์สัน แลนด์ ตกลง 1.2 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.82%