ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้พยายามส่งแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มบลูชิพ หลังจากที่ดัชนีได้ร่วงลงต่อเนื่องกัน 3 วันทำการ แต่อย่างไรก็ตาม ดัชนีก็ปรับเพิ่มขึ้นในวงจำกัดเนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.92 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 3,683.10 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,660.81 และ 3,704.16 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.2 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ขณะที่ปัจจัยพิ้นฐานทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์สดใส นักลงทุนต่างยังมีท่าทีระมัดระวังต่อตลาดเงินและสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ "ความผันผวนในตลาดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีท่าทีวิตกกังวลอยู่" เค อาจิธ นักวิเคราะห์จากยูโอบี แค เฮียนกล่าว "ตลลาดอาจปรับตัวสูงขึ้นในวงจำกัดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และคาดว่าจะผันผวนอย่างหนักในเดือนนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มสำคัญๆ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร รวมถึงน้ำมันและก๊าซปรับตัวผันผวนมากขึ้น" นายอาจิธกล่าว หุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้นเป็นแกนนำให้ตลาดปิดบวกในวันนี้ หุ้นโอซีบีซี ขยับขึ้น 5 เซนต์ หลังจากที่บริษัทได้เปิดเผยผลกำไรสุทธิในช่วงไตรมาสที่ 3 ว่าเติบโตขึ้น 22% แตะระดับ 463 ล้านดอลลาร์ หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ และหุ้นธนาคารยูโอบี พุ่งขึ้น 30 เซนต์ ในหุ้นกลุ่มบลูชิพนั้น หุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หุ้นสิงคโปร์ เพรส โฮลดิ้งส์ ขยับขึ้น 6 เซนต์ และหุ้นเอสที เอ็นจิเนียริ่ง เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันไป เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการเพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นซิตี้ ดีเวลอปเม้นท์ เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ขณะที่หุ้นออลกรีน ขยับลง 1 เซนต์