ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,619.48 จุด ลดลง 4.76 จุด (-0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 97,659.10 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,631.81 จุด และระดับต่ำสุด 1,617.24 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 683 หลักทรัพย์ ลดลง 1,020 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 536 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกัน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากช่วงบ่ายตลาดยุโรปเปิดในแดนลบ และตลาดดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพลิกกลับมาเป็นลบกว่า 200 จุด ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายย่อตัวลงมา
ทั้งนี้ ทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลการปรับตัวขึ้นมาในระยะสั้น
ขณะที่วันนี้หุ้นที่ปรับขึ้นยังคงเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Commodity เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ ตลาดฯ ยังคงเล่นกับสัญญาณการเก็งกำไรในกลุ่มถ่านหินและกลุ่มน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังการลงทุนในโซนนี้ เพราะตลาดฯ เก็งกำไรมาพอสมควรแล้ว
สำหรับแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ นายวิจิตร คาดว่า ตลาดฯน่าจะยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบไซด์เวย์เพื่อสร้างฐาน ระหว่างรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ว่าจะออกมาดีกว่าคาดหรือไม่
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 6,153.15 ล้านบาท ปิดที่ 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
SVT มูลค่าการซื้อขาย 5,203.81 ล้านบาท ปิดที่ 4.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,312.48 ล้านบาท ปิดที่ 4.06 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงSCC มูลค่าการซื้อขาย 3,146.33 ล้านบาท ปิดที่ 395.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,852.37 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 1.50 บาท