ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดอ่อนตัวลงในวันนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารและเหมืองแร่รายใหญ่เป็นแกนนำในการปรับตัวลงของตลาดติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 โจเซฟ ยูเซฟ ผู้อำนวยการของบล.แมคควอรี กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตลาดค่อนข้างจะอ่อนตัวลง และปราศจากทิศทางชี้นำเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทำการเนื่องในวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งของออสเตรเลียในวันพรุ่งนี้ทำให้นักลงทุนบางส่วนอยู่นอกตลาด แม้ว่านักลงทุนจะกังวลกับเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ และปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิกฤตซับไพรม์สหรัฐ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลบ 4.1 จุด หรือ 0.1% ที่ระดับ 6,330.2 จุด หลังจากปรับตัวในช่วง 6,312.7 - 6,344.4 จุด ปริมาณการซื้อขาย 2.7 พันล้านหุ้น มูลค่า 4.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ตลาดหุ้นออสเตรเลียกำลังอยู่ในช่วงเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 6 ปี โดยดัชนี S&P/ASX 200 ตกลงแล้ว 6.2% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2544 ที่ดัชนีร่วงถึง 6.9% "แม้จะปรับตัวขึ้นไม่มากนัก แต่ตลาดหุ้นออสเตรเลียก็ทะยานขึ้นในสัดส่วนที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่สดใส รายได้ที่แข็งแกร่งของภาคธนาคาร และความใกล้ชิดของออสเตรเลียกับประเทศต่างๆในเอเชีย" เชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ส กล่าว หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งต้องการควบกิจการกับริโอ ทินโตนั้น ขยับลง 0.4% ขณะที่หุ้นริโอทินโต ลดลง 0.3% หุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ร่วง 1.3% ส่วนหุ้นคอมมอนเวลท์ แบงค์ ตกลง 1.2% และหุ้นเวสท์แพค ปรับตัวลง 1.5%