หุ้น PSL ราคาหุ้นบวก 4.76% มาอยู่ที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 284.67 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.44 น. โดยเปิดตลาดที่ 16.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 17.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 16.90 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยว่า บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ได้รายงานความคืบหน้าประเด็นเกี่ยวกับการจับกุมลูกเรือสัญชาติไทยจำนวน 22 ราย โดยในวันที่ 29 ต.ค. ศาลไนจีเรียได้มีคำสั่งให้กักเรือชั่วคราวและควบคุมตัวลูกเรือ 22 ราย (และบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องซึ่งไม่ได้ทำงานให้กับบริษัทอีก 7 ราย) เป็นระยะเวลา 14 วัน ในขณะที่การสอบสวนยังดำเนินอยู่ตามคำขอจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งประเทศไนจีเรีย (NDLEA) จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาหรือการฟ้องร้องใดๆ กับลูกเรือของบริษัท และ/หรือบริษัท
ผลกระทบต่อบริษัทจากการถูกกักเรือชั่วคราวในครั้งนี้ คือการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจในช่วงเวลาที่เรือโดนกัก อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังดำเนินการอย่างใกล้ชิดกับบริษัทประกันภัยและที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด
บริษัทได้รับการเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผู้รับสินค้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากความล่าช้าในการขนถ่ายสินค้าลงจากเรือ ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นของไนจีเรีย ตามที่บริษัทฯ ได้อธิบายไว้ในการเปิดเผยข้อมูลก่อนหน้านี้ ขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินการร่วมกับทนายความของบริษัทฯ เพื่อแก้ต่างในข้อเรียกร้องนี้
ทั้งนี้เรามีมุมมองเป็นลบต่อข่าวดังกล่าว โดยเป็นไปตามที่เราคาดว่าหากการสอบสวนและการดำเนินคดีในประเทศในจีเรียมีความยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อจำนวนวันและค่าระวางที่ PSL จะได้รับเนื่องจากการกักตัวจะทำให้เรือต้องจอดอยู่ในประเทศในจีเรียเป็นระยะเวลา 14 วัน โดยหากคำนวนอิง TC rate ของเรือ Handysize วานนี้ 10 พ.ย.ที่ USD35,487/วัน จะทำให้รายได้หายไปราว 16.5 ล้ำนบำท ประกอบกับค่าเสียหายอีก 3.9 ล้ำนเหรียญสหรัฐฯ (ราว 130 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการทำประกันไว้ ซึ่งทำให้อาจได้รับเงินชดเชยรายได้ที่หายไป และค่าเสียหายที่ถูกเรียกร้องจากผู้รับสินค้า และอีกปัจจัยที่จะกระทบราคาหุ้นคือดัชนี BDI Index ที่ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง จากการทำ high ช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ระดับ 5,650 จุด ปัจจุบันอยู่ที่ 3,519 จุด (หรือลดลงมา -37%) ส่วนดัชนี BSI Index ที่ใช้อ้างอิงสำหรับเรือของ PSL ปรับลงมาเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน จาก high ที่ 3,624 จุด โดยล่าสุดปิดที่ 3,104 จุด (ลดลง -14%) เราคาดว่าปัจจัยเชิงลบทั้งสองนี้ จะยังคงกดดันราคาหุ้นต่อเนื่อง
เบื้องต้นคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท โดยคาดว่าค่าระวางอาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และมีความเสี่ยงที่การสืบสวนกักตัวของเรือชญานี นารีอาจมีความยืดเยื้อ