(เพิ่มเติม) SPACK คาดปี 51 รายได้โต 7-10% เผยกำลังเจรจารับงานใหม่กว่า 100 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 16, 2007 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ (SPACK) คาดว่า รายได้ในปี 51 น่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องราว 7-10% จากปีนี้ที่เติบโต 12% 
ซึ่งเบื้องต้นบริษัทกำลังจะเซ็นสัญญารับออร์เดอร์ใหม่กว่า 100 ล้านบาทที่จะไปรับรู้รายได้ในปีหน้า
ขณะที่กำไรสุทธิในปีนี้น่าจะเติบโตได้ถึง 10% จาก 129 ลบ.ในปี 49 จึงมั่นใจว่าจะจ่ายปันผลงวดปีนี้ได้สูงกว่า 0.30 บาท/หุ้น
"การที่กำไรยังโตระดับสูง เนื่องจากมีการลดต้นทุนรวมถึงการซื้อกระดาษล่วงหน้า 50%ของการใช้"นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร SPACK
นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าใหม่ 2-3 ราย เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยคาดว่าภายในปีนี้จะได้ข้อยุติ 1 รายที่มีมูลค่างานประมาณ 100 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในเดือนม.ค.51
ส่วนในไตรมาส 4/50 คาดว่ารายได้จะโตกว่าไตรมาส 3/50 ประมาณ 15% จากยอดการพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น รวมถึงการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ทำให้ลูกค้าของบริษัทอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ รวมถึงถุงมือยางมียอดออร์เดอร์บรรจุภัณฑ์เพื่อส่งออกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายยุทธ เชื่อว่า การส่งออกในปี 51 จะยังเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโลกจะเช้าสู่ภาวะชะลอตัวจากปัญหาซับไพร์ม แต่ผู้บริโภคหลักในโลก เช่น สหรัฐ และ ยุโรป ก็จะหันมาซื้อสินค้าจากไทย และเวียดนามมากขึ้น เพราะปีที่ผ่านมาสินค้าจากจีนมีปัญาหาด้านคุณภาพ
ดังนั้น ก็จะส่งผลให้ออร์เดอร์ของบริษัทดีขึ้นตามไปด้วย บริษัทจึงได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรด้วยการลงทุนราว 100 ล้านบาท เพื่อขยายเครื่องจักรในปีนี้ และในปี 51 ก็จะลงทุนต่อเนื่องเพิ่มอีก 20 ล้านบาทเพื่อใช้ในการบำรุงรักษาเครื่องจักร
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจ่ายเงินปันผลในงวดปี 50 คาดว่าจะจ่ายไม่ต่ากว่าปี 49 ที่จ่ายไปในอัตรา 0.30 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของบริษัท
นายยุทธ กล่าวถึงแผนควบรวมกิจการกับ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO) หากมีข้อสรุปว่าจะทำการควบรวมกิจการกันตามแผนงานที่วางไว้ ก็คาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จในไตรมาส 1/51 ซึ่งจะทำให้มาร์เก็ตแคปของบริษัทเติบโตขึ้นมากเป็น 2.5 พันล้านบาท จาก 1.25 พันล้านบาท และจะจูงใจให้นักลงทุนสถาบันสนใจเข้ามาถือหุ้นของบริษัท
"ตอนนี้ SPACK ถือหุ้น EPCO อยุ่ 24.57% เราไม่สามารถซื้อเพิ่มได้อีก ถ้าจะควบรวมต้องเทคโอเวอร์ทั้ง 100% แล้วผมจะคิดว่าจะนำบริษัทไหนออกจากตลาด" นายยุทธ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ