ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (1 พ.ย.) แม้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และบริษัทต่างๆจะมีผลประกอบการอันแข็งแกร่งก็ตาม เนื่องจากตลาดได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอจากนั้นยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐที่ลดลง สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ขยับลง 2.14 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 3,803.56 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,796.93 และ 3,842.95 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.7 พันล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 3.0 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ "ตลาดยังคงมีความแปรปรวน ส่วนราคาน้ำมันก็อยู่ในระดับสูง จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดขยับลงเล็กน้อยเช่นนี้" ซอง เซ็ง วูน หัวหน้าทีมวิจัยจาก CIMB-GK Securities กล่าว รายงานการจ้างงานประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้พอจะเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ซึ่งเฟดเปิดเผยเมื่อวานนี้บอกเป็นนัยว่า ปัญหาที่เกิดจากวิกฤติในตลาดสินเชื่อของสหรัฐอาจจบลงในไม่ช้านี้ "แถลงการณ์ดังกล่าวบอกเป็นนัยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีเสถียรภาพมากขึ้นจนเฟดอาจไม่ต้องเข้าแทรกแซงมากเท่าเดิม นับเป็นสถานการณ์ในอุดมคติสำหรับเศรษฐกิจเอเชียซึ่งต้องพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก" ซองกล่าว หุ้นสิงคโปร์แอร์ไลน์เพิ่ม 10 เซนต์ หลังสายการบินเปิดเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสสองที่พุ่งทะยานกว่า 73% หุ้นคอสโค กรุ๊ป (สิงคโปร์) เพิ่ม 10 เซ็นต์ หลังมีการเปิดเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสสามที่เพิ่มขึ้น 37% หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป เพิ่ม 20 เซนต์สิงคโปร์, หุ้นยูโอบี ลดลง 30 เซนต์ และ หุ้น โอซีบีซี ลดลง 20 เซนต์ หุ้นสิงคโปร์ ปิโตรเลียม เพิ่ม 40 เซนต์