ดัชนีเวทเต็ดปิดรีบาวน์ทางเทคนิคในวันนี้ (9 พ.ย.) หลังจากที่รัฐบาลไต้หวันเข้าสนับสนุนตลาด แต่ช่วงขาขึ้นของตลาดกลับถูกสกัดไว้ด้วยกระแสวิตกต่อเนื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ
นักลงทุนยังไม่คลายจากการตื่นตระหนกกระหน่ำเทขายวานนี้ ซึ่งเป็นผลจากการที่ เบ็น เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีเวทเต็ดปิดดีดขึ้น 33.34 จุด หรือ 0.37% ที่ระดับ 8,970.92 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 8,853.81 - 9,016.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.54 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน โดยตลอดสัปดาห์นี้ดัชนีรูดลงกว่า 302.17 จุด หรือ 3.26%
หุ้นบลูชิปอย่างหุ้นกลุ่มการเงินบวกขึ้น 0.58% ขณะที่หุ้นอิเล็กทรอนิคส์ขยับลง 0.01%
โอลิเวอร์ ฝาง นักวิเคราะห์กล่าวว่า แรงหนุนจากกองทุนรัฐบาลช่วยพยุงตลาดในวันนี้ได้ ขณะที่แรงซื้อเก็งกำไรจากนักลงทุนรายเล็กมีบทบาทน้อยกว่า
การร่วงลงอย่างหนักหน่วงเมื่อวานนี้ สะท้อนว่า นักลงทุนส่วนมากหวาดกลัวและเทขายหุ้นออกมา ดังนั้นโอกาสที่จะได้เห็นดัชนีวิ่งขึ้นไปแตะ 1 หมื่นจุดในระยะใกล้นี้จึงเป็นเรื่องไกลตัวมากยิ่งขึ้น
แม้ว่า กองทุนรัฐบาลจะเข้าซื้อหุ้นทุนจดทะเบียนสูง อาทิ TSMC เพื่อพยุงตลาด และเพิ่มโอกาสของพรรครัฐบาลในการเลือกตั้งใหญ่ต้นปีหน้า แต่ไม่อาจช่วยตลาดได้มากนักจากความผันผวนที่ได้รับมาจากดาวโจนส์ ซึ่งมีความวิตกกังวลรุมเร้าหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์สินเชื่อ เศรษฐกิจชะลอตัวลง และราคาน้ำมันโลกพุ่ง
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มผู้ผลิตจอแอลซีดีปิดทั้งบวกและลบ หลังจากเปิดเผยผลประกอบการเดือนตุลาคม แม้ว่าอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มว่าจะสดใสในปี 2551 ก็ตาม
หุ้นจือเหม่ย พุ่ง 2.75 ดอลลาร์ไต้หวัน ปิดที่ 49.85 ดอลลาร์ไต้หวัน ขณะที่หุ้น อินโนลักซ์ รูดลง 9.00 ดอลลาร์ไต้หวันปิดที่ 125.00 ดอลลาร์ไต้หวัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]