นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% โดยรายได้หลักจะมาจากธุรกิจบริหารหนี้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 200-500 ล้านบาท และจะซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอีกมูลค่าราว 1-1.5 หมื่นล้านบาท (รวมชโย เจวี) โดยตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 2 -2.5 พันล้านบาท เพราะมองเห็นว่าในปีหน้ายังคงมีโอกาสในการซื้อหนี้เสียมาบริหารเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และหากได้เงินจากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (CHAYO-W2) ก็จะมีเงินทุนเพิ่มเข้ามาซื้อหนี้ได้อีก
ขณะที่ปี 64 คาดว่ารายได้เติบโตมากกว่า 25% ตามแผนได้อย่างแน่นอน หลังจากงวด 9 เดือนแรกมีรายได้ 506.71 ล้านบาท เติบโต 44% แล้ว และในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเข้าซื้อหนี้เสียมาบริหารได้เพิ่มอีกมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท โดยมีงบลงทุนเหลืออยู่อีกกว่า 1 พันล้านบาท จาก 9 เดือนแรกซื้อหนี้มาบริหารแล้วกว่า 6 พันล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลหนี้คงค้างในพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 65,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกันประมาณ 15,000 ล้านบาท และหนี้ที่ไม่มีหลักประกันราว 50,000 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจบริการเร่งรัดติดตามหนี้สินคาดว่ารายได้จะปรับลดลง 20% เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19
"งวดไตรมาส 4/64 จะเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงที่ทางสถาบันการเงินจะเร่งขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมามากเพื่อบริหาร NPL ของสถาบันการเงิน หากดูหนี้เสียในระบบที่มีกว่า 5 แสนล้านบาท แต่ที่นำออกมาขายทอดตลาดในปีนี้คาดว่ามีเพียง 1-2 แสนล้านบาทเท่านั้น มีอีก 3-4 แสนล้านบาทที่ยังไม่ออกมาขายในปีนี้ ดังนั้นเชื่อว่าปีหน้าจะเห็นสถาบันการเงินนำหนี้เสียออกมาขายอย่างต่อเนื่องเพื่อบริหารหนี้ NPL ไม่ให้เกินระดับ 4%"นายสุขสันต์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนดัน บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยในปีนี้พยายามทำกำไรให้เกินกว่า 10 ล้านบาท คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในปีหน้า โดยจะเสนอคณะกรรมการบริษัทให้พิจารณาสิทธิผู้ถือหุ้นเดิมของ CHAYO ซื้อหุ้น บริษัท ชโย แคปปิตอล ด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าแผนงานเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือร่วมทุน (JV) คาดว่าในไตรมาส 4/64 น่าจะได้ข้อสรุปเรื่อง M&A หรือ ร่วมทุนได้อย่างน้อย 1 ดีล
ขณะที่บริษัทเริ่มจะเข้าศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลในปีหน้า เพราะมองเป็นเทรนด์ของโลก โดยคาดว่าจะออกเป็น Utinity และ Investment ซึ่งศึกษาว่าทั้งสองอย่างใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง หรือจะนำธุรกิจไหนมาใช้เหรียญดิจิทัล คาดว่าปีหน้าน่าจะมีความคืบหน้า
นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAYO กล่าวเสริมว่า บริษัทได้ปรึกษากับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เรื่องการออกสินทรัพย์ดิจิทัล เป็น Case Study และศึกษาหาช่องทางว่าจะนำธุรกิจไหนไปออกสินทรัพย์ดิจิทัลทีทั้งบริษัทและผู้ลงทุนได้ประโยชน์ด้วยกัน
และ นายณฐพล ทิพชัชวาลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัญชี-การเงิน CHAYO กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจสินเชื่อในปี 65 คาดว่าจะสามารถขยายเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 64 ซึ่งรอตัวเลขตอนสิ้นปี 64 โดยสินเชื่อที่มีหลักประกันก็เน้นไปหัวเมืองใหญ่ และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันก็ขยายตัวได้ด้วย โดยในงวด 9 เดือนปี 64 เน้นสินเชื่อมีหลักประกัน มูลค่า 123 ล้านบาทและคาดว่าปีนี้จะมียอดปล่อยสินเชื่อ 200-250 ล้านบาท
นอกจากนี้ได้จับมือกับเจ้าของเฟรนไชส์รายหนึ่ง ที่มีความเป็นไปได้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ขอเฟรนไชส์ วงเงิน 5-7 หมื่นบาท/ราย เก็บค่างวดเป็นรายสัปดาห์
ล่าสุดบริษัทเตรียมออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.70% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน มูลค่าการเสนอขายรวม 750-1,250 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับขยายกิจการและการชำระคืนหุ้นกู้เดิม (ก่อนกำหนด) ซึ่งจะทำการเสนอขายในช่วงระหว่างวันที่ 18-19 และ 22 พ.ย.64 นี้