(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: วิตกราคาน้ำมันพุ่ง ฮั่งเส็งปิดร่วง 1,153.02 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 21, 2007 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (21 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐ และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นส่งผลให้นักลงทุนต่างไม่กล้าเข้าลงทุน ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงต่ำสุดเป็นครั้งที่สองในปีนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นแกนนำให้ดัชนีดิ่งลงในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเรื่องต้นทุน หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทโทรคมนาคมของจีนยังคงได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่หุ้นได้เพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ อันเป็นผลมาจากความหวังเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในภาคธุรกิจดังกล่าวในจีน หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงจากราคาน้ำมันและเหล็กที่สูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจและระมัดระวังต่อความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจและตลาดทั่วโลกมากขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ได้เปิดเผยรายงานเมื่อคืนนี้เกี่ยวกับการคาดการณ์ที่ว่า ปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะวิกฤตตลาดสินเชื่อจะเป็นปัจจัยที่ฉุดให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และส่งผลให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นในปีหน้า สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดร่วงลง 1,153.02 จุด หรือ 4.15% ปิดที่ 26,618.19 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 26,500.54 และ 27,303.91 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.2882 แสนล้านดอลลาร์ ดัชนีที่ร่วงลงอย่างหนักในวันนี้นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1,000 จุดเป็นครั้งที่ 5 ในเดือนนี้ และร่วงลงต่ำสุดเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ดัชนีร่วงลงต่ำสุด 1,526 จุด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังร่วงลงเกือบ 16% นับตั้งแต่ที่ดัชนีปิดตัวพุ่งขึ้นสูงสุดที่ระดับ 31,638 จุด เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา "นักลงทุนไม่มั่นใจกับความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นนิวยอร์ก" เอริค หยวน หัวหน้านักวิจัยจากเต๋า เฮง ซิเคียวริตี้ส์กล่าว "การซื้อขายในตลาดหุ้นยิวยอร์กยังคงผันผวน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และความวิตกกังวลเกี่ยวกับเม็ดเงินไหลออก หลังจากที่เฟดได้ออกมาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงอีก" เขากล่าว หยวนกล่าวว่า ตลาดยังคงไร้ทิศทาง เนื่องจากรัฐบาลจีนยังไม่ตัดสินใจอนุญาตให้นักลงทุนจากจีนสามารถเข้าลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงได้ และการใช้มาตรการจำกัดเม็ดเงินไหลเข้าที่ผิดกฎหมายจากจีน "ผมเชื่อว่าอาจต้องใช้เวลาสักพักกว่านักลงทุนจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง เพราะคาดว่าการซื้อขายจะยังคงผันผวนต่อไป" เขากล่าว ด้านโทนี่ เอสปิน่า ประธานสมาคมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของฮ่องกงกล่าวว่า การขาดปัจจัยบวกในระยะนี้ส่งผลให้นักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้น "นอกจากความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า ก็คงไม่มีปัจจัยบวกอื่นๆอีก เพราะโครงการอนุญาตนักลงทุนจีนลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงก็ยังไม่สามารถใช้ได้จริง" เขากล่าว "ตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นอย่างหนักในช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว แต่นักลงทุนได้ตัดสินใจเทขายหุ้นในวันนี้เพราะขาดปัจจัยบวกต่างๆ" เขากล่าว ขณะที่คิตตี้ ชาน ผู้อำนวยการของ Celestial Asia Securities กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ถึงแนวโน้มตลาดในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เพราะการที่ดัชนีร่วงลงในวันนี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานของตลาดเลย ปัจจัยภายนอก อาทิ ความผันผวนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะวิกฤตตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อขายหุ้นของนักลงทุน ในหุ้นกลุ่มบลูชิพนั้น หุ้น HSBC ลดลง 2.074 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.55% หุ้นไชน่า โมบาย ลดลง 5.40 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.02% หุ้นไชน่า ไลฟ์ ลดลง 2.5 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 5.75% และหุ้นฮ่องกง เอ็กซ์เชนจ์ แอนด์ เคลียริ่ง ร่วงลง 7.60 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 3.33% ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินนั้น หุ้นแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ ขยับลง 0.62 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 5.17% และหุ้นไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ ลดลง 0.39 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 5.24% หุ้นกลุ่มธนาคารก็ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นฮั่งเส็งแบงค์ ลดลง 2.70 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 1.90% หุ้นแบงค์ ออฟ อีสท์ เอเชีย ลดลง 2.35 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.65% และหุ้นบีโอซี ฮ่องกง ขยับลง 0.88 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.59% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันลดลง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก็ตาม หุ้นซีนุ๊ก ลดลง 0.56 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.24% ขณะที่หุ้นปิโตร ไชน่า ตกลง 0.52 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 3.5% และหุ้นซิโนเปค ลดลง 0.68 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 6.24% หุ้นสายการบินร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันอาจทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงการบิน และค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานโดยรวมเพิ่มขึ้น หุ้นสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก ลดลง 0.14 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 0.76% หุ้นแอร์ ไชน่า ลดลง 0.36 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.23% และหุ้นไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ส ขยับลง 0.4 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.74% หุ้นกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านของจีนปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนที่ว่า พวกเขาอาจได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าลงทุนในธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ โดยหุ้นไชน่า เทเลคอม ลดลง 0.49 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 8.32% และหุ้นไชน่า เน็ทคอม ลดลง 1.45 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 6.17% หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นกว่า 8% และ 11% ตามลำดับเมื่อวานนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ