ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,635.46 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด (+0.73%) มูลค่าการซื้อขายราว 45,781 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,637.11 จุด และระดับต่ำสุด 1,624.31 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเฉลี่ยราว 0.2% ตามตลาดสหรัฐฯที่บวกได้ดี หลังจากผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ โดยเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่ ม.ค. 2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ใน มี.ค. 2565 แต่ปีหน้า (2565) มองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งเพื่อชะลอการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ยังจะต้องติดตามการประชุมของธนาคารกลางอื่น ทั้งธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต่อไปด้วย ทำให้มองว่าบ่ายนี้ตลาดในยุโรปคงจะฟื้นตัวขึ้นไปได้ไม่ไกล อีกทั้งยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในยุโรป และสหรัฐฯ เพราะขณะนี้เริ่มเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะปรับขึ้นในกรอบจำกัด โดยมีแนวรับ 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 3,927.91 ล้านบาท ปิดที่ 93.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,832.20 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,287.82 ล้านบาท ปิดที่ 77.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 1,227.31 ล้านบาท ปิดที่ 4.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,075.84 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท