A5 หวังกลับเข้าเทรดใน Q1/65 วางเป้าปีนี้รายได้แตะ 1 พันลบ.เปิด 3 โครงการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 7, 2022 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

A5 หวังกลับเข้าเทรดใน Q1/65 วางเป้าปีนี้รายได้แตะ 1 พันลบ.เปิด 3 โครงการใหม่

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป (A5) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าจะสามารถกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงไตรมาส 1/65 พร้อมนำบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่เป็นผู้นำในตลาดนิชมาร์เก็ต

"แม้ว่าส่วนตัวเติบโตมาในครอบครัวปัญจทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโครงการอสังหาริมทรัพย์ยุคแรกๆ ในประเทศไทย และได้ซึมซับการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากครอบครัว อย่างไรก็ตาม A5 มีแนวคิดพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่าง โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทำเลที่จะพัฒนาโครงการอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำมาพัฒนาโปรดักต์ที่แตกต่าง ภายใต้กลยุทธ์มุ่งเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม และมีวิชั่นที่จะยกระดับ A5 เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของตลาดอสังหาฯ นิชมาร์เก็ตในอนาคต หากนึกถึงโครงการที่โดดเด่น คุ้มค่า สามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานต่อไป อยากให้นึกถึง A5" นายศุภโชค กล่าว
A5 หวังกลับเข้าเทรดใน Q1/65 วางเป้าปีนี้รายได้แตะ 1 พันลบ.เปิด 3 โครงการใหม่

อนึ่ง บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป ใช้ชื่อย่อ A5 ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.62 หลังจากเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer : EBT) ของบริษัท แอสเซท ไฟว์ โฮลดิ้ง จำกัด (AFH) โดยระค่าตอบแทนเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 752.84 ล้านบาทด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของ ADAM ไม่เกิน 752.84 ล้านหุ้น และยังคงถูกพักการซื้อขายในปัจจุบัน

นายศุภโชค กล่าวว่า แผนงานในปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9-ศรีนครินทร์ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายเฟสสุดท้าย (Private Zone) เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ขนาด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 492 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 35-50 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ 1 โครงการ มูลค่าราว 2,700 ล้านบาทในช่วงปลายปี และโครงการในจังหวัดอุดรธานี 2 โครงการ มูลค่า 500 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้

บริษัทวางเป้าหมายระยะกลางที่จะผลักดันรายได้ให้เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30-50% ต่อปี โดยในปี 65 บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ สูง 29 ชั้น จำนวน 80 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ภายในต้นปี 66

พร้อมกันนั้นบริษัทยังคงเน้นพัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ และตอบโจทย์ผู้ต้องการที่อยู่อาศัยตลาดบ้านสร้างเองที่มีมูลค่าตลาดรวมในประเทศมากกว่า 200,000 ล้านบาท โดยยังมีความต้องการจำนวนมาก เห็นได้ว่าบริษัทสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ค่อนข้างดี ทั้งทำเลและรูปแบบของโครงการ ทำให้มียอดจองเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบัน A5 พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแล้วรวม 7 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท

นายศุภโชค เปิดเผยอีกว่า DNA ในการพัฒนาโครงการของ A5 ได้แก่ 1.ASSET ต้องเป็น Good Asset ของลูกค้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต สะท้อนมาจากการเลือกทำเลที่มีศักยภาพต่อการพัฒนา 2.LEGACY ต้องพัฒนาโครงการให้มีคุณค่า ผสมการดีไซน์ที่สวยงามเหนือกาลเวลาเสมือนของสะสมที่มีคุณค่าและสามารถส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่นได้ 3.FREEDOM ต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์อิสระในการใช้ชีวิตและเปิดกว้างรองรับจินตนาการของผู้อยู่อาศัย จากการพัฒนาตัวบ้านให้พื้นที่ใช้สอยมากเพียงพอและปรับให้ตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้

4.FAMILY เพราะสังคมที่ดีเริ่มต้นที่บ้าน การพัฒนาโครงการจึงเน้นความปลอดภัย รวมถึงการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อการสร้างความทรงจำที่มีความหมายของครอบครัว และ 5.ASPIRATION บ้านคือสถานที่ใช้ชีวิตมากที่สุด จึงต้องเป็นสถานที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตหรือความสร้างสรรค์ในการทำงานได้ ซึ่งสามารถสะท้อนไปสู่ความสำเร็จของผู้อยู่อาศัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ