ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (13 ธ.ค.) ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงต่ำกว่าระดับ 28,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าตลาดจะยังคงซบเซาลงอีก และมองว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาตรการเพื่อยับยั้งวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อทั่วโลกนั้นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวเลวร้ายกว่าที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้นเนื่องจากวิตกกังวลว่า จีนอาจออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการขยายตัวทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทต่างๆ โดยคาดว่าจีนอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 ในปีนี้ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 776.61 จุด หรือ 2.7% ปิดที่ 27,744.45 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.271 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง เมื่อวานนี้ เฟด ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมอัดฉีดสภาพเงินทุนเข้าสู่ตลาดเงินต่างๆ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องที่เกิดขึ้น แต่หลังจากมีรายงานข่าวดังกล่าว ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์กลับปิดเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% "ตลาดจะเข้าสู่ภาวะปรับฐาน การเข้าแทรกแซงของธนาคารกลางมีแต่จะสร้างความวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์สินเชื่อเลวร้ายลงกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้" เบน คว็อง หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการของเคจีไอ เอเชีย ลิมิเต็ดกล่าว