ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) หลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ร่วมมือกับธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อยับยั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 22.9 จุด หรือ 0.35% แตะระดับ 6,559.8 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,429.5-6,610.9 จุด
นักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า เฟดได้ร่วมมือกับธนาคารกลางในประเทศอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการที่เฟดจะเปิดประมูลวงเงินปล่อยกู้ระยะสั้นชั่วคราวเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์สามารถระดมทุนได้ และรวมถึงการร่วมมือกับธนาคารกลางยุโรปและธนาคาร กลางสวิตเซอร์แลนด์ในการจัดตั้งวงเงินสำหรับการสวอปสกุลเงินตราต่างประเทศด้วย
ข่าวความร่วมมือของธนาคารกลางดังกล่าวได้หนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้น โดยหุ้นบาร์แรทท์ ดิเวลลอปเมนท์ ดีดขึ้น 23 เพนซ์ ปิดที่ 508.5 เพนซ์ หุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ ขยับขึ้น 6 เพนซ์ ปิดที่ 229 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินนั้น หุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ดีดขึ้น 28 เพนซ์ ปิดที่ 728 เพนซ์ หุ้นธนาคาร HBOS เพิ่มขึ้น 16.5 เพนซ์ ปิดที่ 833 เพนซ์ แต่หุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อคร่วงลง 5.2 เพนซ์ ปิดที่ 99.2 เพนซ์ หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานว่า บริษัทเซอร์เบรัสประกาศถอนตัวจากการเข้าซื้อกิจการธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อค
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือระดับ 94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐร่วงลงเกินคาด และจากข่าวเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเอ็กซอน โมบิล ในรัฐเท็กซัส
โดยหุ้นบีพีดีดขึ้น 6.5 เพนซ์ ปิดที่ 623 เพนซ์ และหุ้นบีจี กรุ๊ป ขยับขึ้น 4 เพนซ์ ปิดที่ 1,083 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]