FOCUS คาดปี 51 อาจโตเกิน 20% จาก Backlog เพิ่มขึ้น-รับงานมาร์จิ้นสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 3, 2007 15:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายนนทวัฒน์ ทองมี กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฟคัส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(FOCUS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"โดยคาดว่าผลประกอบการปี 51 จะเติบโตมากกว่า 20% จาก Backlog ที่มีอยู่ รวมทั้งงานที่เข้าร่วมประมูลใหม่ ซึ่งจะทราบผลในไตรมาส 4/50 ที่จะช่วยเพิ่ม Backlog ได้มากพอสมควร นอกจากนี้ บริษัทหันมาเน้นรับงานที่ให้มาร์จิ้นสูงขึ้น 
"สำคัญคือผลกำไร บางปีโตน้อยแต่กำไรมากขึ้นก็มีความเป็นไปได้ ตอนนี้กรรมการก็กำลังเวิร์กกันอยู่ มองช่องทางขยายการดำเนินงาน เน้นลักษณะงานที่มีมาร์จิ้นมากขึ้น กำลังปรับกลยุทธ์ หาวิธีการกันอยู่ ซึ่งดูแล้วปีหน้าน่าจะดีกว่าปีนี้ซึ่งภาวะไม่แจ่มใสเท่าไหร่"นายนนทวัฒน์ กล่าว
สำหรับปีนี้ยังประเมินสถานการณ์ลำบาก เพราะปีนี้สถานการณ์ผันผวนอยู่ตลอดเวลา แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียวก็ต้องรอดู
"เนื่องจากปีนี้รายได้ของบริษัทก่อสร้างขนาดเล็กและขนาดแกว่งมาก ไม่ค่อยเที่ยง การที่เราจะบอกว่าโตเท่าไหร่ พยากรณ์ลำบาก คงต้องดูเป็นรายไตรมาส แต่เชื่อว่าปีนี้บริษัทจะยังมีกำไรอยู่ ส่วนกำไรจะดีกว่าปีก่อนหรือไม่ ต้องดูไตรมาสสุดท้ายด้วย ถึงจะเหลือแค่เดือนเดียวก็ต้องรอดู"นายนนทวัฒน์ กล่าว
งวด 9 เดือน FOCUS มีกำไรสุทธิ 10.59 ล้านบาท เทียบกับงวด 9 เดือนของปี 49 ที่มีกำไรสุทธิ 7.71 แสนบาท
*หา Backlog ตุนไว้สำหรับเก็บเกี่ยวในปีหน้า
นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอผลอีก 6-7 งาน มูลค่ารวมประมาณ 1.8 พันล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 600 ล้านบาท จาก ณ สิ้น ก.ย.50 FOCUS มี Bacgklog 500 ล้านบาท
"เรายื่นประมูลไปแล้วประมาณ 6-7 งาน มูลค่ารวมประมาณ 1.8 พันล้าน เป็นงานของภาคเอกชนทั้งหมด เร็วๆนี้ก็คงรู้ผล แต่คิดว่าน่าจะได้ประมาณ 600 ล้าน งานที่ได้มาใหม่ก็จะเข้ามาเพิ่มให้ Backlog เรามากขึ้น"นายนนทวัฒน์ กล่าว
นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทเพิ่งได้รับงานใหม่ 3 โครงการ มูลค่า 74.63 ล้านบาท และคาดว่าทั้ง 3 โครงการใหม่จะทยอยรับรู้บางส่วนในไตรมาส 4/50 และจะไปรับรู้หมดภายในกลางปีหน้า
งานใหม่ทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ งานสร้างอาคารพักอาศัย มูลค่า 31.14 ล้านบาท คาดรับรู้หมดในไตรมาส 2/51,
โครงการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศชายทะเล 2 หลัง มูลค่า 23.40 ล้านบาท คาดรับรู้หมดในกลางปี 51,ส่วนโครงการก่อสร้างบ้านพักอาศัย PRIVATE RESIDENCES BANGKOK มูลค่า 20,09 ล้านบาท ในนส่วนของฐานรากจะเสร็จและรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/51 และจึงจะเริ่มงานสถาปัตยกรรม
*ปี 51 งานเอกชนเพิ่มเป็น 80-90% จาก 50% ในปัจจุบัน
นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า ในปี 51 บริษัทมีแผนจะปรับสัดส่วนรับงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็น 80-90% จากปีนี้สัดส่วนงานของภาครัฐและเอกชนอยู่ที่ 50:50 เนื่องจากมองดูแล้วกว่าการเมืองจะชัดเจนและรัฐบาลเริ่มทำงานจริงๆก็คงกินเวลาไปจนถึงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้การใช้งบประมาณเต็มที่ล่าช้าตามไปด้วย
"ช่วงนี้เราต้องทำงานหนักมาก เพราะงานดีๆในตลาดลดน้อยลงไปเยอะ เพราะเมกะโปรเจ็คต์ งานภาครัฐหายไปเยอะ ส่วนงานที่มีออกมาการแข่งขันก็สูง เราก็เลยตั้งใจว่าปีหน้าเราจะเน้นรับงานเอกชนมากขึ้นเป็น 80-90% จาก 50:50 ในตอนนี้ ที่ยื่นประมูลไปแล้วมีทั้งงานคอนโดมีเนียม โรงแรม"นายนนทวัฒน์ กล่าว
นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้อุตสาหกรรมก่อสร้างมีความผันผวนมาก ไม่แจ่มใส ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์การทำงานเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ ต้องมี Backlog ให้พ้นจุดคุ้มทุนก่อน สำหรับบริษัทแล้วปีที่ผ่านมาก็ยังรักษาระดับกำไรได้ แต่ก็ยังไม่มากพอจะล้างขาดทุนสะสมได้หมด
ณ วันที่ 30 ก.ย.50 FOCUS มีขาดทุนสะสมประมาณ 24.85 ล้านบาท
"ถามว่าบริษัทก่อสร้างเล็กๆอย่างเราจะปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ ก่อนอื่นต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน ต้องมี Backlog พ้นจุดคุ้มทุนก่อน ถ้ายังทำตรงนั้นไม่ได้แล้วบอกว่าจะไปทำนู่นนี่มันพร่ำเพรื่อ แต่ถ้าเลยจุดคุ้มทุนแล้วถ้าจะไปโฟคัสนิชมาร์เก็ตตรงไหน ก็เป็นไปได้ คือต้องยอมรับว่าทางเลือกสำหรับรายเล็กมีไม่มาก"นายนนทวัฒน์ กล่าว
ส่วนกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ ได้แก่ QUAM Securities, Knight High Harvest Fund, Knight Pacific, Knight Septagon Asian Fund, Knight Asia Property Fund ได้เข้ามาช่วยเรื่อง Network แนะนำงานต่างๆมาให้
"ผู้ถือหุ้นทุกคนมีส่วนในการแนะนำงาน กรรมการทุกคน Active กันมาก"นายนนทวัฒน์ กล่าว
ล่าสุด(3 ธ.ค.) Knight Pacific Fund รายงานก.ล.ต.ว่าได้เข้าเก็บหุ้น FOCUS เพิ่ม 1.6% ทำให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 6.16%
นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทไม่มีนโยบายไปลงทุนต่างประเทศ เพราะเราเป็นบริษัทเล็กๆ จะไปตามรายใหญ่ก็คงไม่ง่าย
"การจะไปทำงานต่างประเทศต้องมีอะไรมากกว่านี้ ต้องหา local partner ต้องมีกฎหมายคุ้มครอง ต้องมีฐานการเงินที่ใหญ่พอสมควรถ้าจะก้าวย่างออกไป ไม่งั้นถ้าเสียหายมาจากโครงการนึงบริษัทอาจจะเจ๊งได้...ขนาดรายใหญ่ยังต้องลองผิดลองถูก บางรายไปแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ สะบักสะบอมกลับมาเลย"นายนนทวัฒน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ