ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศและความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงการที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้น ดีลเลอร์กล่าวว่า บรรยากาศการเมืองเริ่มร้อนแรงขึ้นในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 22 มี.ค.นี้ใกล้เข้ามาทุกขณะ แม้ว่าหลายฝ่ายยังคงเชื่อว่าไต้หวันและจีนจะมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นขึ้น ไม่ว่าผู้สมัครคนใดจะได้รับชัยชนะก็ตาม นอกจากนี้ โฮ จื่อ-ฉิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของไต้หวันได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเช้าวันนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบภายหลังจากจากเกิดเหตุปะทะกันที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ของนายแฟรงค์ เซียะห์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งมีนายโฮร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยนายโฮกล่าวว่า เขาได้รับการขอร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติ 3 รายให้พาพวกเขาไปที่สำนักงานพรรคดีพีพีเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า ธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งได้อนุญาตให้ทีมหาเสียงของนายเซียะห์เช่าพื้นที่เพื่อทำเป็นสำนักงานโดยไม่เหมาะสม สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีเวทเต็ดปิดดิ่งลง 224.31 จุด หรือ 2.66% แตะที่ 8,210.99 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 8,198.77 - 8,447.98 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1.12 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน "ในที่สุดก็มีปัจจัยลบที่ทำให้ราคาหุ้นร่วงลง" ไมเคิล ซู ผู้ช่วยรองประธานบ.ไต้หวัน ไลฟ์ แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าว ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและผลพวงของวิกฤติซับไพรม์ต้องเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อพิจารณาจากการที่ตลาดหุ้นทั่วเอเชียพากันร่วงลง เขากล่าวว่า ดัชนีอ้างอิงของไต้หวันน่าจะปรับตัวในช่วง 8,200 และ 8,500 จุดก่อนวันเลือกตั้ง หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม Old-economy ร่วงลงมากกว่าหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์และหุ้นกลุ่มการเงิน โดยหุ้นกลุ่มปูนซีเมนต์ลดลง 4.81% หุ้นกลุ่มขนส่งร่วง 3.98% และหุ้นกลุ่มสิ่งทอลบ 2.72% ขณะที่หุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ลดลง 2.52% และหุ้นกลุ่มการเงินลบ 2.08%