A เผยกำลังหารือสถาบันการเงินรายใหม่ 2-3 ราย กู้เงินแทน ABN AMRO

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 13, 2008 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

           นายวิศิษฎ์  เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ. อารียาพร็อพเพอร์ตี้ (A) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยุ่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรทางด้านการเงินอยู่ 2-3 ราย ทั้งกองทุนและธนาคารต่างประเทศ หลังจากที่ไม่สามารถตกลงเงื่อนไขกับทาง ABN AMRO Bank N.V. London Branch ได้
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้เจ้าหนี้สถาบันการเงินจำนวน 40 ล้านหน่วย เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีในการกู้ยืมเงิน อันเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น และได้มีการลงนามในสัญญากู้ยืมเงินกับ ABN AMRO Bank N.V. London Branch วงเงิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีเงื่อนไขคือ บริษัทต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทโดยมีอายุ 3 ปี และราคาใช้สิทธิ (Exercise Price) ที่ 3.50 บาท
"คงจะเลือกเพียงรายเดียว และเป็นการให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินกู้เพียงอย่างเดียว เหมือนกรณีของ ABN" นายวิศิษฏ์ กล่าว
อนึ่ง บริษัทออกวอร์แรนต์ทั้งหมด 191.6 ล้านหน่วย แบ่งจัดสรรให้เจ้าหนี้สถาบันการเงินจำนวน 40 ล้านหน่วย และแบ่งให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 151.6 ล้านหน่วย สัดส่วน 5 หุ้นต่อ 1 วอร์แรนต์
*คาดยอดรับรู้ฯ ปีนี้ 2.5 พันลบ.พุ่งเกินเท่าตัว เปิด 4 โครงการใหม่
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ที่ 2.5 พันล้านบาทจากปีก่อนที่มี 800 กว่าล้านบาท โดยจะมาจากงานในมือ(Backlog) 1.8 พันล้านบาทในปีนี้ จากทั้งหมด 4.8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในช่วงต่อไป
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการในปีนี้ แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ A Space Play รัชดา-สุทธิสาร ที่เปิดไปเมื่อเดือนม.ค. มูลค่า 750 ล้านบาท มียอดพรีเซลแล้ว 28% และอีกโครงการเป็นการขยายเฟสในโครงการ A Space อโศก-รัชดา 2 ตึก มูลค่า 1 พันล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่ 10 ตึก มูลค่าโครงการ 4.1 พันล้านบาท ปัจจุบันขายได้แล้ว 80%
ส่วนอีก 2 โครงการเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยจะเน้นระดับราคาย่อมเยาเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง และโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคาเฉลี่ย 40-50 ล้านบาทต่อหลัง มูลค่าโครงการ 800-900 ล้านบาท ย่านเกษตร-นวมินทร์ บนพื้นที่ 20 ไร่ ภายใต้แบรนด์ใหม่ คาดเห็นได้ช่วงปลายปี
"มองว่าปีนี้จะเป็นปีที่เรารับรู้เยอะและน่าจะมีกำไรจากที่ขาดทุนปีก่อน 70 กว่าล้านบาท จากการที่เราสามารถบันทึกรายได้เต็มจากโครงการคอนโดฯและยังมีในเรื่องของภาษีมาช่วยเราอีก"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ