ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ (14 มี.ค.) สวนทางตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคที่ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนซึมซับปัจจัยบวกจากยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ได้ฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะผันผวนก็ตาม ยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ในเดือนม.ค. 2551 ขยายตัวขึ้น 7.8% จากระดับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลได้สำรวจความคิดเห็นไว้ที่ 3.2-7.6% นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ คาดการณ์ว่า การปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีและการตั้งสำรองหนี้สูญของบริษัทการเงินใกล้จะสิ้นสุดลง โดย S&P คาดการณ์ว่าการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์และการตั้งสำรองหนี้สูญทั่วโลกอาจมีอยู่ถึง 2.85 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.65 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งเสริมว่า สถานการณ์ดังกล่าวใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์เพิ่มขึ้น 33.46 จุด หรือ 1.2% ปิดที่ 2,839.01 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.34 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.33 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ "เรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะถดถอยหรือไม่ แม้ว่ามีความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วก็ตาม และเราก็เชื่อว่าตลาดอาจจะเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุด" เวสท์คอมบ์ ซิเคียวริตี้ส์กล่าว