HILITE: JMT พุ่ง 11.4% ตอบรับเข้าคำนวณ MSCI-SET50 หลังราคาร่วงหนักก่อนหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 17, 2022 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาหุ้น JMT พุ่งขึ้น 11.40% หรือเพิ่มขึ้น 7.75 บาท มุลค่าซื้อขาย 2,500 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.37 น. จากราคาเปิด 68.50 บาท ราคาสูงสุด 76.50 บาท ราคาต่ำสุด 68.50 บาท ทั้งนี้ เมื่อ 29 เม.ย.ทำราคาสูงสุดที่ 87 บาท จากนั้นก็เริ่มมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง และต่ำสุดเมื่อ 13 พ.ค.ปิดที่ 68.00 บาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้นบมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ปรับตัวขึ้นแรงเป็นการตอบรับหุ้น JMT เข้าคำนวณ MSCI ที่มีผล 31 พ.ค.65 ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ราคาหุ้น JMT มีแรงขายออกมามาก พอมีประกาศดังกล่าวมี Room หุ้นปรับขึ้นได้ ทำให้วันนี้ตลาดตอบรับเรื่องดังกล่าว

ด้านบทวิเคราะห์ของบล.เคทีบีเอสที ระบุว่าคงคำแนะนำ "ซื้อ" JMT แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 80.00 บาท อิงวิธี GGM ได้ 2022E PBV ที่ 5.0x (+1SD above 5-yr average PBV) จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 95.00 บาท โดยเป็นผลจากการปรับลดกำไรสุทธิ และทำให้ ROAE ในระยะยาวลดลง

บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 ที่ 367 ล้านบาท (+30% YoY, -11% QoQ) ต่ำกว่าตลาดคาด -9% จากค่าใช้จ่ายสำรองที่สูง คิดเป็น credit cost ที่ 269 bps (1Q21 = 86 bps) ตามการเข้าซื้อหนี้เสียแบบมีหลักประกันเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รวมเป็นไปตามคาด จาก 1) การเข้าซื้อหนี้เสียต่อเนื่องที่ต้นทุน 737 ล้านบาท และ 2) เงินสดรับที่ดีขึ้น ตามเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ทั้งนี้เราให้ความสนใจต่อการรับรู้ขาดทุนขั้นต้นธุรกิจประกัน จากค่าเคลมประกัน COVID-19 ที่เราคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันผลการดำเนินงานต่อเนื่องในไตรมาส 2/65 ก่อนที่จะดีขึ้นในครึ่งหลังปี 65 จากการสิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครองประกัน COVID-19

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ลง -6% อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (+53% YoY) จากการปรับเพิ่ม credit cost และลด GPM ธุรกิจประกันลง ขณะที่เรายังคงประมาณการมูลหนี้ที่เข้าซื้อที่สูงถึง 1.0 หมื่นล้านบาท และรายได้รับจ้างติดตามหนี้ที่จะดีขึ้น ราคาหุ้น outperform SET +18% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากโอกาสที่จะเข้าคำนวณ SET50 และ MSCI

ทั้งนี้เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" จากผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวสูง และต่อเนื่อง 2-3 ปี หนุนโดยขนาดกองหนี้เสียที่ซื้อบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท/ปี, กองหนี้ fully amortized ที่จะเพิ่มขึ้นสูง และการร่วมทุนกับ KBANK และสถาบันการเงินอื่นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ