ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 2.73 จุด วอลุ่มบางรอลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐ แรงซื้อแบงก์-โรงไฟฟ้าช่วยพยุง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 11, 2022 12:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดเช้า 1,555.14 จุด ลดลง 2.73 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขายราว 23,044 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงเล็กน้อยตามตลาดหุ้นภูมิภาคกลับมากังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย แต่ยังมีแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เก็งข่าวปรับขึ้นค่าเอฟทีช่วยพยุงไว้ได้บ้าง แต่ปริมาณการซื้อขายเบาบางระหว่างเกาะติดเงินเฟ้อสหรัฐกลางสัปดาห์ตลาดฯคาด 8.8% สูงกว่าเดือนก่อน ช่วงบ่ายคาด Sideway down ให้แนวรับแรก 1,550 จุด ถัดไป 1,544 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,560 และ 1,563 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,555.14 จุด ลดลง 2.73 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขายราว 23,044 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,560.01 จุด และระดับต่ำสุด 1,550.54 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าว่า ตจาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตอบรับปัจจัยเดิมคือความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์ นำโดย SCB เทรดคึกคักจากเก็งผลกำไรการขาย บลจ.ไทยพาณิชย์ และการเลื่อนดีล Bitkub ที่อาจทำให้ใช้เงินลงทุนน้อยลงหรืออาจยกเลิกดีล รวมทั้งกลุ่มแบงก์ใกล้จะประกาศงบการเงินไตรมาส 2/65 ทำให้มีการเก็งกำไรเข้ามา โดย ซีจีเอสฯคาดว่าผลดำเนินการทั้งกลุ่มแบงก์จะเติบโต 20% YoY แต่ลดลง 3% QoQ รวมทั้งมีแรงซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังมีกระแสข่าวคณะกรรมการกำกับพลังงาน (กกพ.) จะปรับขึ้นค่าเอฟที ด้วยแรงซื้อดังกล่าวช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยไว้ได้ระดับหนึ่ง

แต่ปริมาณการซื้อขายน้อย และค่าเงินบาทยังนิ่ง คาดว่าชะลอลงทุนเพื่อรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในวันพุธนี้ (13 ก.ค.) โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 8.8% มากกว่าเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 8.6% ซึ่งหากเป็นตามคาดตลาดหุ้นจะปรับตัวลงอีกครั้ง แต่ถ้าออกมาต่ำกว่านั้นก็จะช่วยให้ตลาดฟื้นขึ้นมาได้ นอกจากนั้น ยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) 21 ก.ค. และ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) 26-27 ก.ค.

บ่ายนี้ แนวโน้มการลงทุนคาดว่าดัชนีจะแกว่ง sideway down ปริมาณซื้อขายน้อย และยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม แนะติดตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ขณะนี้ปรับตัวลง และตลาดหุ้นยุโรปที่คาดเปิดลบ กังวลเศรษฐกิจสหรัฐที่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) พุ่งเหนือ 3%

พร้อมให้แนวรับแรกที่ 1,550 จุด แนวรับถัดไป 1,544 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,560 และ 1,563 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,486.41 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,335.11 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,116.96 ล้านบาท ปิดที่ 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท

BLL มูลค่าการซื้อขาย 748.69 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 583.88 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 0.50 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ