บล.พาย ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) สัปดาห์ 1,590-1,620 จุด โดยตลาดหุ้น Dow Jones วันศุกร์ที่ผ่านปิดบวกเล็กน้อย 0.2% ในช่วงแรกปรับลดลงไป 0.4% หลังจากที่มีการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 5.28 แสนตำแหน่ง สูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินที่ 2.5 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.5% ดีกว่าตลาดคาดที่ 3.6% รวมถึงค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.5%MoM ดีกว่าตลาดประเมินที่ 0.3%MoM ส่งผลให้นักลงทุนกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้แรงหนุนจากกลุ่มการเงินตามทิศทางดอกเบี้ยที่ตลาดประเมินว่ามีโอกาสขยับขึ้น สอดคล้องกับทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีปรับตัวขึ้นโดดเด่น แต่ทั้งนี้มุมมองดอกเบี้ยของตลาดฯต่อการประชุมเดือน 9 ตลาดปรับมุมมองขึ้นโดยคาดว่าความเป็นไปได้จะเกิดที่ขึ้นดอกเบี้ย 0.75%
สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักที่ต้องติดตามได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐประจำเดือน ก.ค. มีกำหนดรายงานในวันที่ 10 ส.ค. ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินที่ 8.7%YoY , 0.2%MoM ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 9.1%YoY , 1.3%MoM ซึ่งดูเหมือนกับว่าตลาดจะประเมินว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในเดือน มิ.ย. หากพิจารณาที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ถือว่ามีความเป็นไปได้ปัจจุบัน
ราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลงมาอยู่ที่ 94.92 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทั้งเดือน ส.ค.ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 97.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (-7.3%MoM) ดังนั้นจึงยิ่งมีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อในเดือน ส.ค. จะลดลงต่อเนื่องจากเดือน ก.ค. หากเงินเฟ้อที่ประกาศออกมาในวันพุธสูงกว่าคาดก็เชื่อว่ามีผลต่อการลงทุนไม่มาก
ถัดมาจะเป็นดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐที่จะประกาศในวันพฤหัสราว 19.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดจะขยายตัว 0.3%MoM ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.1%MoM ซึ่งทิศทางสอดคล้องกับดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐที่การขยายตัว MoM เริ่มน้อยลง มองเช่นเดียวกันว่าหากสูงกว่าคาดก็ไม่มีผลกับการลงทุนมากเพราะแนวโน้มถัดไปจะเริ่มเห็นการอ่อนตัว
ส่วนปัจจัยในประเทศจะมี (1) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 ส.ค. Bloomberg คาดว่าที่ประชุมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลต่อการลงทุนจำกัด (2) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Q2/65 เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการประกาศ Bloomberg ประเมิน SET100 จะรายงานราว 76 บริษัทรายงานในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นกลุ่มได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง (SCC SCGP TOA) รวมถึง Domestic (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL) ธนาคาร (BBL KBANK SCB) ขนส่ง (BTS BEM) สื่อสาร (ADVANC)
DOHOME (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท) SSSG ยังแข็งแกร่งที่ราว +10%YoY ในช่วง 3QTD นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาอีก 3 แห่ง (+31%YoY) ในช่วง 2H22 หลังจากเปิดไปแล้ว 2 สาขาใน 1H22 ได้แก่ หาดใหญ่ (1Q22) และ พิษณุโลก (2Q22)
ORI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท) ประเมินกำไร 2Q22 ที่ 976 ล้านบาท (+15%YoY, +32% QoQ) หนุนจากส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นเป็น 100 ล้านบาท เทียบขาดทุน 48 ล้านบาทใน 1Q22 และกำไร 4 ล้านบาทใน 2Q21 จากการโอนคอนโด