RCL เชื่อรายได้ปี 65 โตเท่าตัวเล็งขยายตลาดอินเดีย-ตอ.กลาง-กลุ่มตะวันตกทดแทนจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 8, 2022 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปี 65 ยังสามารถเติบโตได้เท่าตัวจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท หลังจากที่โควิด-19 คลี่คลายลง มีการกลับมาเปิดเมือง ทำให้การติดต่อค้าขาย และการส่งสินค้าต่างๆกลับมามากขึ้น โดยที่ความต้องการขนส่งสินค้าต่างๆยังคงเห็นปริมาณความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ายังมีอุปสรรคในเรื่องของปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆในต่างประเทศอยู่บ้าง เช่น สงครามรัสเซียและยูเครน การใช้นโยบาย Zero Covid ของจีน และความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้บ้าง

อย่างไรก็ตามก็ตามบริษัทมองหากลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตด้านเศรษฐกิจและมีความต้องการในการขนส่งสินค้า เช่น กลุ่มประเทศอินเดีย และตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศอาเซียน และกลุ่มประเทศตะวันตก ซึ่งสามารถเข้ามาช่วยทดแทนตลาดในประเทศจีนได้ หลังจากที่ปีนี้การส่งในประเทศจีนมีการชะลอไปจากการปิดเมืองในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง

ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทมีการให้บริการเรือเพิ่มอีก 5 ลำ ทำให้กองเรือของบริษัทที่ให้บริการมีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีเรือที่ให้บริการกองเรือทั้งหมดในปัจจุบันเพิ่มเป็น 40 ลำ จากสิ้นปีก่อนที่ 35 ลำ และครึ่งปีหลังจะมีเรือใหม่ที่เข้ามาเพิ่มอีก 1 ลำ ทำให้บริษัทมีกองเรือที่พร้อมให้บริการขนส่งในช่วงไตรมาส 4/65 มากขึ้น ซึ่งเป็นไตรมาสที่บริษัทมองว่าจะเห็นปริมาณความต้องการจนส่งกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงไตรมาส 3/65 ชะลอตัวลงไป ซึ่งทำให้ผลงานในช่วงไตรมาส 3/65 จะไม่ดีเหมือนกับไตรมาส 3 ปีก่อน แต่จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 4/65

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/65 บริษัทจะมีรายได้ค่าบริการเช่าเรือระยะยาว 2 ลำ จากลูกค้า เข้ามาในช่วงเดือนพ.ย. 65 ทำให้ให้เป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/65 ที่คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่น อีกทั้งในปีนี้บริษัทยังไม่มีเรือที่ปลดประจำการ ทำให้ยังให้มีเรือให้บบริการอย่างเต็มที่ แต่ในปี 66 ยังคงต้องดูว่าเรือที่เตรียมปลดประจำการจำนวน 3 ลำ จะมีแผนการบริหารอย่างไร เนื่องจากในปีหน้าจะมีประเด็นในเรื่องของการลดปริมาณคาร์บอน ทำให้ต้องมีการวางแผนในการจัดการเดินเรือ ซึ่งอาจมีผลทำให้การเดินเรือต้องช้าลง จากการลดความเร็วในการแล่นเรือขนส่ง เพื่อปล่อยคาร์บอนน้อยลง ทำให้บริษัทพิจารณาแนวทางในการนำเรือที่เตรียมปลดประจำการนำมาซ่อมบำรุงแทนได้เช่นกัน

ด้านต้นทุนน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นยอมรับว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนในการเดินเรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่ไม่ได้เป็นผลกระทบมาก เพราะบริษัทมีกองเรือที่ให้บริการมากขึ้น ซึ่งมีผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นราว 20% แต่ยังมีความต้องการจากลูกค้าที่ต้องการใช้บริการขนส่งเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้สามารถชดเชยในด้านต้นทุนน้ำมันของบริษัทได้บ้าง และไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านแผนการซื้อหุ้นคืนของบริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณา หากราคาหุ้นของบริษัทปรับลดลงมาตต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งบริษัทมีแผนรองรับดังกล่าวไว้แล้ว แต่ในปัจจุบันบริษัทเน้นการบริหารจัดการเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมองหาโอกาสใหม่ๆในการซื้อเรือหรือนำไปลงทุนในการให้บริการที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมาให้กับบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ