นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง (PROS) เปิดเผยว่า บริษัทได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท พรอสเน็กซ์ จำกัด (PROSNEX) โดย PROS ถือหุ้น 60% ร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทางเลือกและด้านระบบไฟฟ้าแรงสูงถือหุ้น 40% เพื่อประกอบธุรกิจ ก่อสร้าง ผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และธุรกิจก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)
นอกจากนี้ PROS พยายามหาตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นการบริการหลังการขายให้ลูกค้าอย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน และมุ่งเน้นให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย นับเป็นอีกธุรกิจที่ PROS มองเห็นโอกาสและจะรุกมากขึ้นในปีนี้
ก่อนหน้านี้ บริษัทลงทุนในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นลักษณะสัญญากิจการร่วมค้าเพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในรูปแบบสัญญาข้อตกลงการซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ โดยลงนามสัญญากิจการร่วมการค้าพรอสเพอร์และโซลาริกซ์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง PROS 80% และบริษัท โซลาริกซ์ เอเนอร์จี จำกัด 20% และกิจการร่วมค้าฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แบบ PPA กับบริษัท ช.เสริมทรัพย์ จำกัด กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 22,130,000 บาท ซึ่งจะมีการ COD ภายในเดือน ก.ย.นี้
นอกจากนี้ ทีมบริหารเตรียมแผนเดินหน้าทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูง โดยเน้นไปที่กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ต้องการลงทุนเอง โดย PROS จะเข้าไปดำเนินการให้ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การคำนวณความคุ้มค่าของโครงการ และดำเนินการติดตั้ง รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาและดูแลตลอดการใช้งาน
สำหรับแผนธุรกิจปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน กลยุทธ์การเติบโตของบริษัท มีจุดแข็งคือการกระจายกลุ่มลูกค้า การรับงานตรงจากลูกค้าโดยเลือกลูกค้าที่มีฐานะการเงินมั่นคง และขยายสัดส่วนไปรับงานภาครัฐมากขึ้น รวมทั้งเลือกรับงานในกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นงานระยะสั้น ได้เงินเร็วและสามารถควบคุมต้นทุนจากความผันผวนของราคาสินค้าได้
ทิศทางช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เชื่อว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากงานใหม่ที่รับมาเป็นโครงการระยะสั้น ซึ่งบริษัทจะสามารถควบคุมต้นทุนจากความผันผวนของราคาสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการรับงานใหม่เรามีนโยบายเน้นเป็นงานระยะสั้น เก็บเงินได้เร็ว และมีแรงงานพร้อม
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทยังเดินหน้ายื่นประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นงานของกลุ่มห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก สำนักงาน คอนโดมิเนียม และได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรในการประมูลงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ส่วนของงานภาครัฐ บริษัทกำลังเข้ายื่นประมูลในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมกับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ส่วนกลุ่มงานโรงพยาบาล ยังมีโอกาสเข้าประมูลอย่างต่อเนื่อง ส่วนงานอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ยังมีการขยายตัวจากแผนการลงทุนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ โดยประเมินว่าเป้าหมายปีนี้ สัดส่วนงานภาครัฐปีนี้จะอยู่ที่ 50% และเอกชน 50% จากเดิมงานภาครัฐอยู่ที่ 30% และงานเอกชน 70%
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในสถานการณ์ที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวน PROS ได้พยายามหาช่องทางการเติบโตโดยนำความรู้ ความเชี่ยวชาญของบริษัท เข้าลงทุนในธุรกิจที่เป็นโอกาส และถือว่าเป็นการนำจุดแข็งของธุรกิจ มาใช้ในการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทในระยะยาว