HILITE: โบรกฯมองยอดผลิต-ยอดขายรถยนต์ H2/65 ฟื้นดีขึ้นเป็นบวกกลุ่ม Automotive ชู SAT

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 26, 2022 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเด็นยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ค.65 เติบโต +16% YoY, ทรงตัว MoM โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ค.65 อยู่ที่ 1.43 แสนคัน +16% YoY, ทรงตัว MoM โดยเติบโต YoY ค่อนข้างมากจากทั้งยอดขายรถยนต์ในประเทศและยอดส่งออกที่เติบโตได้ดี และยังเป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อนที่ค่ายรถยนต์บางแห่งลดกำลังการผลิตจากการระบาดโควิด-19 และมีการล็อกดาวน์

สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 6.4 หมื่นคัน +22% YoY, -6% MoM ส่วนยอดส่งออกอยู่ที่ 8.3 หมื่นคัน +18% YoY, +12% MoM จากความต้องการรถยนต์ทั่วโลกที่ยังคงสูง โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาดยกเว้นเอเชียที่ลดลง สำหรับยอดผลิตรถยนต์ 7 เดือน ปี 65 อยู่ที่ 1.0 ล้านคัน +5% YoY

ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้มีการปรับลดเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ปี 2565 ลงเป็น 1.75 ล้านคัน +4% YoY จากเดิมที่ 1.8 ล้านคัน +7% YoY จากการปรับลดเป้าส่งออกลดลง

บล.ดาโอ มองเป็นกลาง จากยอดผลิตรถยนต์ที่เติบโต YoY โดดเด่นตามคาด ขณะที่ ส.อ.ท.ปรับลดเป้าหมายผลิตรถยนต์ ถือว่าลดลงเพียงเล็กน้อยและเป็นไปตามที่เราประเมินไว้ เป็นผลจากยอดผลิตรถยนต์ไตรมาส 2/65 ที่ชะลอตัวลงมาก ซึ่งแนวโน้มไตรมาส 3 -ไตรมาส 4 ปี 65 จะฟื้นตัวได้ดีขึ้น สำหรับยอดผลิตรถยนต์งวด 7 เดือนปี 65 คิดเป็น 58% จากเป้าทั้งปีที่เราประเมินที่ 1.75 ล้านคัน โดยยอดผลิตรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีจะมีทิศทางที่ดีขึ้นทั้งจากปัจจัยฤดูกาล แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงสถานการณ์การขาดแคลนชิปเริ่มดีขึ้น ส่งผลบวกต่อการส่งออกรถยนต์ที่ฟื้นตัวได้ กลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "Neutral"

โดยราคาหุ้นกลุ่ม Automotive ปรับตัวลง underperform SET -3% ในช่วง 1 เดือน จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ที่ชะลอตัวตามยอดผลิตรถยนต์ที่ลดลง ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3-ไตรมาส 4 ปี 65 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น

สำหรับหุ้น SAT เรายังแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท บาท อิง 2022E PER ที่ 10 เท่า (5-yr average PER) โดย valuation ปัจจุบันน่าสนใจ เทรด 2022E EPR ต่ำที่ 8.3 เท่า (-0.75SD) โดยเราประเมินกำไรกำไร ครึ่งปีหลังปี 65 จะกลับมาเติบโตได้ +22% YoY, +3% HoH โดยยังมี key catalyst จากราคาเหล็กที่ปรับลดลง ช่วยลดความกดดันด้านต้นทุนได้ดีขึ้น

ยอดผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวดียังเป็นบวกต่อ EPG, JWD ขณะที่ยอดส่งออกเติบโตโดดเด่นจะเป็นบวกต่อ NYT สำหรับยอดผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวดี เรามองเป็นบวกต่อหุ้นที่มีรายได้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ EPG (ซื้อ/เป้า 12.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจยานยนต์ 45% และ JWD (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจยานยนต์ราว 10%-15% นอกจากนั้น ยอดส่งออกรถยนต์ที่ฟื้นตัวโดดเด่น เรามองเป็นบวกต่อ NYT (เป้า Bloomberg consensus เฉลี่ย 4.10 บาท) ที่ทำธุรกิจท่าเรือส่งออกและนำเข้ารถยนต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ