ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,621.95 จุด ลดลง 16.98 จุด (-1.04%) มูลค่าการซื้อขาย 79,411.84 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย โดยทำระดับสูงสุด 1,640.65 จุด และต่ำสุด 1,617.75 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 415 หลักทรัพย์ ลดลง 1,447 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 359 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ จากแรงขายลดความเสี่ยง หลังจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ตลาดกังวลว่ายังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ออกมากล่าวว่าเฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นระดับ 4% ในปีหน้า ทำให้เกิดเป็นปัจจัยกดดันเข้ามายิ่งขึ้น
นอกจากนี้สินทรัพย์ต่างๆทั่วโลกทั้งหุ้น ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆได้มีแรงเทขายออกมาเช่นกัน อีกทั้งยังคงมีความกังวลมากขึ้นในเรื่องของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯสูงขึ้น เข้ามากดดันตลาด และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมา กดดันกลุ่มหุ้นพลังงาน มีผลกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ด้วยเช่นกัน
แนวโน้มพรุ่งนี้ยังมองว่ามีแรงกดดันในตลาดยังอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้ดัชนีอาจจะแกว่งไซด์เวย์ หรือรีบาวด์แกว่งขึ้นได้เล็กน้อย แต่ดัชนีหุ้นไทยยังมีอัพไซด์ที่จำกัด และยังไม่มีแรงบวกใหม่เข้ามา ทำให้มองว่ายังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแนวต้าน 1,640-1,650 จุด แนวรับ 1,615-1,605 จุด และคืนนี้ติดตามการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,698.13 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,748.23 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
TLI มูลค่าการซื้อขาย 3,325.14 ล้านบาท ปิดที่ 15.60 บาท ลดลง 0.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,645.76 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,541.65 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.75 บาท