(เพิ่มเติม) "เมพ คอร์ปอเรชั่น" ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 75 ล้านหุ้น-เข้า mai ใช้ขยายธุรกิจเดิม-ธุรกิจใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 19, 2022 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. เมพ คอร์ปอเรชั่น (Meb Corporation) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ B2S ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 75,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับหุ้นที่เสนอขาย IPO ในครั้งนี้คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แบ่งเป็น

(1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 22,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

(2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Two Bees (HK) Limited จำนวนไม่เกิน 39,375,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

(3) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Brain Ventures Limited จำนวนไม่เกิน 13,125,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเป็นจำนวนไม่เกิน 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

วัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมใหม่ๆ ไปขายในแพลตฟอร์มปัจจุบัน การซื้อลิขสิทธิ์ของ Webtoon หรือการ์ตูนออนไลน์มาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มปัจจุบัน การปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้งใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการจำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ในภาษาท้องถิ่นของต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ การจำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ในภาษาต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ อีกทั้งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

Meb Corporation ประกอบธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ในประเทศไทย และมีธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ การจัดจำหน่ายอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) และ ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มระบบห้องสมุดดิจิทัลสำหรับองค์กร (Hibrary) ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (Hytexts)

บริษัทจำหน่าย E-Book ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite ผ่านเว็บไซต์ www.mebmarket.com และ www.readAwrite.com และ แอปพลิเคชัน meb และ readAwrite โดย meb มีวรรณกรรมออนไลน์มีความหลากหลายจากสำนักพิมพ์และเจ้าของผลงานอิสระ เช่น นิยาย หนังสือทั่วไป (non-fiction) การ์ตูน นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ส่วน readAwrite เป็นชุมชนนักเขียน-นักอ่าน โดยให้สมาชิกสามารถโพสต์คอนเทนต์หรือเนื้อหาได้ด้วยตัวเอง (User Generated Content หรือ UGC) โดยเจ้าของผลงานสามารถเลือกที่จะจำหน่ายผลงานของตัวเอง และ/หรือ ให้นักอ่าน Donate ให้เพื่อเป็นการสนับสนุน

ขณะที่ Hytexts จัดจำหน่ายเครื่องอ่าน E-Book (E-Reader) ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ www.hytexts.com ร้านค้าและช่องทางออนไลน์ของ B2S และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไป นอกจากนี้ ยังให้บริการระบบห้องสมุดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Library) สำหรับองค์กร (หรือ Hibrary) กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน และโรงพยาบาล เป็นต้น Hytexts ยังมีธุรกิจจัดจำหน่าย E-Book ผ่านแพลตฟอร์ม Hytexts ทั้งผ่านเว็บไซต์ www.hytexts.com และแอปพลิเคชัน Hytexts

ในเดือน มิ.ย.65 แพลตฟอร์ม meb และ แพลตฟอร์ม readAwrite มี Monthly Active User (MAU) ประมาณ 6 แสนราย และ 5.4 ล้านราย ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดือน มิ.ย.62 ที่มี MAU ประมาณ 2 แสนราย และ 2 แสนราย สำหรับ แพลตฟอร์ม meb และ แพลตฟอร์ม readAwrite ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามากกว่า 40% และ 195%

ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 แพลตฟอร์ม meb มีคลังวรรณกรรมมากกว่า 170,000 เล่ม/ชุด (SKU) ให้ผู้ใช้บริการได้เลือกชมจำนวนมาก และครอบคลุมในทุกๆ ประเภท เช่น นิยาย การ์ตูน ความรู้ทั่วไป สารคดี และนิตยสารต่างๆ เป็นต้น ทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลากหลายกลุ่ม

บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์โดยการร่วมทุนหรือการเข้าซื้อกิจการ เนื่องจากกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นการต่อยอดธุรกิจที่รวดเร็ว และบริษัทฯ สามารถใช้องค์ความรู้ (Know-how) ของบริษัทฯ ในปัจจุบันในการต่อยอดความสำเร็จในกิจการที่เข้าซื้อได้ทันที โดยจะมีการพิจารณาและมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการหรือการร่วมลงทุนกับบริษัทที่น่าสนใจและเหมาะสมกับธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมองหาโอกาสในการเติบโตอื่นๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท บีทูเอส จำกัด ถือหุ้น 153,780,000 หุ้น คิดเป็น 55.42% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 51.26% , Two Bees (HK) Limited ถือหุ้น 54,345,000 หุ้น คิดเป็น 19.58% จะลดเหลือ 4.99%, นายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม ถือหุ้น 28,125,000 หุ้น คิดเป็น 10.14% จะลดเหลือ 9.38%, นายรวิวร มะหะสิทธิ์ 28,125,000 หุ้น คิดเป็น 10.14% จะลดเหลือ 9.38% ส่วน Brain Ventures Limited ถือหุ้น 13,125,000 หุ้น คิดเป็น 4.72% หลัง IPO จะไม่มีหุ้นคงเหลืออยู่

อนึ่ง บีทูเอส (B2S) เป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ซีโอแอล (COL) ส่วน Two Bees (HK) Limited เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในฮ่องกง มีผู้ถือหุ้นคือ B2S สัดส่วน 100% ขณะที่ Brain Ventures Limited เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในฮ่องกง ผู้ถือหุ้นคือ นายกิตติพงษ์ และนายรวิวร ในสัดส่วน 50:50

ผลประกอบการช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวม 618.72 ล้านบาท 1,004.68 ล้านบาท และ 1,456.38 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 82.09 ล้านบาท 164.74 ล้านบาท และ 275.34 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.27% , 16.40% และ 18.91% ตามลำดับ

งวด 6 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 843.51 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 666.59 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 163.66 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 123.11 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 840 ล้านบาท หนี้สินรวม 834.39 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 6.21 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตรารวมกันไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ