TEGH ปิดเทรดวันแรกที่ 5.00 บาท สูงขึ้น 0.20 บาท หรือ 4.17% จากราคา IPO ที่ 4.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 4,101.47 ล้านบาท จากราคาเปิด 4.98 บาท ราคาสูงสุด 5.35 บาท ราคาต่ำสุด 4.88 บาท
บล.โกลเบล็ก ประเมินหุ้น บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ให้ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 6.90- 8.00 บาท จาก ราคา IPO 4.80 บาท
TEGH ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ (1)ธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ (2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และ (3) ธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ โดยโครงสร้างรายได้มาจากขายยางธรรมชาติ 75.5% จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 23.7% และผลิตพลังงานทดแทน 0.7% โดยบริษัทจะเน้นการผลิตสินค้ายางแท่งที่เป็น Premium Quality ตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็น Premium Brand มากกว่า64 แบรนด์ดังทั่วโลก อาทิ Michelin, Bridgestone และ Yokohama
รายได้รวมในปี 62-64 เท่ากับ 8,091 ล้านบาท 8,196 ล้านบาท และ 11,088 ล้านบาท ตามลำดับ และ กำไรสุทธิในงวดปี 62-64 เท่ากับ 53 ล้านบาท 38 ล้านบาท และ 563 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 7.5% , 7.4% และ 10.4% ตามลำดับ
ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/65 ราว 211 ลบ. +3%YoY หนุนกำไรครึ่งปีแรกปี 65 ราว 367 ลบ. +42%YoY สาเหตุมาจากปริมาณขายยางรวมที่ปรับตัวขึ้นจาก 83,011 ตัน เป็น 97,919 ตัน +18%YoY อีกทั้งราคายางยังทรงตัวระดับสูงในกรอบ 45-50 บาทต่อกิโลกรัม ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/65
TEGH เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 270 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ราคาพาร์ 1.00 บาท ราคา IPO 4.80 บาท (คิดเป็น P/E = 7.7 เท่า) ราคาเหมาะสม Consensus ในช่วง 6.90-8.00 บาท วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1)เพิ่มกำลังการผลิต 2)ชำระคืนเงินกู้ 3)เป็นเงินทุนหมุนเวียน