ตลท.ปูทางเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคตผ่านศูนย์ซื้อขายTDX จับมือพันธมิตรออกผลิตภัณฑ์

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday November 6, 2022 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย "Roadmap สู่การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล" ในงาน SET in the city 2022 ว่า ปัจจุบันตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกมีมูลค่า 91.67 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดหุ้นทั่วโลกมีมูลค่า 92 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และ ตลาดทองคำ 10.93 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) มีมูลค่าราว 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีเหรียญที่ซื้อขายกันอยู่ทั้งหมดราว 9,426 เหรียญ ปริมาณการซือขายราว 54,000 ล้านเหรียญสหรัฐ/วัน โดยที่การซื้อขายมากที่สุดอยู่ในกลุ่มสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และเป็นการซื้อขายจำนวนมากในบิตคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของตลาด และ Ethereum (ETH) คิดเป็นสัดส่วนราว 17% ที่เหลือคือเหรียญอื่นๆที่มีขนาดเล็กลงไป

โดยปัจจุบัน Digital Asset แบ่งออกเป็น 1. สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ (1) เงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ (Central Bank Digital Currency) ที่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการใช้งานแบบจริงจังมากนัก โดยในประเทศไทยได้มีโครงการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำร่วมกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ชื่อว่าโครงการอินทนนท์ เพื่อใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อโอนเงินระหว่างสถาบันทางการเงิน

(2) Private digital currencies ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Stable Coin สกุลเงินดิจิทัลประเภทที่อิงกับสินทรัพย์หรือเงินตราเพื่อให้มูลค่าผันผวนน้อยลง และ Blank Coin สกุลเงินดิจิทัลประเภทที่ไม่มีสินทรัพย์หนุนหลัง ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการลงทุนด้วยการเข้ามามองว่าการปรับตัวขึ้นและลงของราคาเป็นอย่างไร โดยส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรโดยตรง

2.โทเคนดิจิทัล (Digital Token) คือ หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิของบุคคลในการร่วมลงทุน (investment token) หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าและ บริการหรือสิทธิอื่นๆ (utility token) ตามที่ได้ตกลงกับผู้ออก

สำหรับการปรับตัวในปัจจุบันของ ตลท. ที่ดำเนินการในรูปแบบของสินทรัพย์พื้นฐาน (Traditional Assets) ไปยัง Digital Asset คือ การปรับรูปแบบจากตลาดในปัจจุบันที่สามารถรองรับความต้องการของนักลงทุนและผู้ระดมทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี ลดการใช้กระดาษ (Paperless) ให้มากที่สุด ทำให้นักลงทุนและผู้ระดมทุนได้รับความสะดวกมากที่สุด

ซึ่ง ตลท. ได้มีการพัฒนาไปยังรูปแบบ Hybrid ที่มีการซื้อขายเป็นหน่วยย่อย (Fractional Trading) ในสินทรัพย์ต่างประเทศด้วยเงินเป็นบาทบาทผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย (บล.) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงของนักลงทุน รวมไปถึงการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) สำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ Startups

ขณะที่ปัจจุบัน ตลท. ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ต.ล.) ให้เปิด บริษัท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด (TDX) เพื่อเป็นศูนย์กลางหรือเครือข่ายสำหรับการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ซึ่งในอนาคตจะสามารถระดมทุนผ่านการออกสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ และ เข้ามาซื้อขายใน TDX ได้ โดยปัจจุบันได้เริ่มทำงานร่วมกับพันธมิตรในการที่จะออกผลิตภัณฑ์แล้ว

นายภากร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ SET อยู่ที่ 19.3 ล้านล้านบาท และ mai อยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท โดยในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า (ปี 66 - 75) มองว่าการระดมทุนในรูปแบบ Traditional จะยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สามารถระดมทุนได้จำนวนมาก สำหรับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ และ บันทึกภาษี สามารถเข้าระดมทุนได้ง่าย ซึ่งตลาดหุ้นไทยถือว่ามีสภาพคล่องค่อนข้างสูง จึงเชื่อว่าทั้ง SET , mai และ LiVEx จะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ตลาดทุนไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น

นอกจากนี้ตลาด Digital Asset ก็จะมีการเติบโตขึ้นจากการระดมทุนของบริษัทใหม่ๆ ที่มีโอกาสในการเติบโต แต่มีความเสี่ยงสูง และ ยังไม่บันทึกภาษี สามารถเข้ามาระดมทุนได้ ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนที่เพิ่มเติมจากการระดมทุนในแบบเดิม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ