SAMART เผย Q3/65 ขาดทุนจากตั้งสำรองหนี้สิน เตรียมยื่นอุทธรณ์ปมพิพาทหน่วยงานรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 10, 2022 18:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/65 บริษัทฯ มีขาดทุนในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ รวม 477 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี ก่อนหน้า 367 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 334

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหำร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ SAMART กล่าวว่า ในไตรมาส 3/65 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการตั้งประมาณการหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น โดยตั้งประมาณการหนี้สินครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีพิพาทที่บริษัทมีกับหน่วยงานแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านการเงินและการติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคม ซึ่งขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลแพ่งต่อศาลฏีกา

ทั้งนี้ ที่ปรึกษากฏหมายของบริษัท ให้ความเห็นและแสดงความเชื่อมั่นว่าจากข้อต่อสู้ของบริษัท ศาลฏีกาจะมีคำพิพากษาอันเป็นประโยชน์และทาให้บริษัทเป็นฝ่ายชนะคดีในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งยึดถือหลักความระมัดระวังเป็นสาคัญ บริษัทจึงได้ตั้งประมาณการหนี้สินไว้ ซึ่งการตั้งสารองครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อรูปคดี และไม่ถือเป็นการสละสิทธิตามกฏหมายในการต่อสู้คดีต่อไปของบริษัท

"บริษัทเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและไม่มีความกังวลใดๆ ต่อการต่อสู้คดีครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 3 ปี ส่วนการตั้งประมาณการหนี้สินดังกล่าวนั้น หากในท้ายที่สุด บริษัทได้รับคาตัดสินให้ชนะคดี ค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้ก็จะถูกโอนกลับมาเป็นรายได้ของบริษัทต่อไป"นายวัฒน์ชัย กล่าว

นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า กลุ่มบริษัทสามารถยังคงความแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้จากการดาเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งได้รับผลบวกจากการเปิดประเทศ โดยบริษัทเตรียมที่จะนำเข้าจดทะเบียนใน ตลท. กลางปี 2566

ส่วนธุรกิจในสาย ICT Solutions ภายใต้ บมจ. สามารถเทลคอม (SAMTEL) ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นฐานรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มสามารถ คาดว่าปีนี้ จะมีมูลค่างานในมือสะสมเกือบ 8,000 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทสามารถคอร์ป ยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษีสรรพสามิต ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ปีละประมาณ 900 - 1,200 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 7 ปี และล่าสุดบริษัท วิชั่น แอนด์ ซีเคียวริตี้ ซีสเต็ม จากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เซ็นสัญญาเช่าระบบกล้องวงจรปิด ป้องกันความปลอดภัย ในเขตพื้นที่ภาคใต้ มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท

ส่วนสายธุรกิจที่อยู่ภายใต้ บมจ. สามารถดิจิตอล ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการ Digital Trunk Radio ก็มีแนวโน้มในการขยายฐานลูกค้าที่ดีขึ้น และยังมีโอกาสในการรับรู้รายได้เพิ่มจากการเปิดตัว 2 Application ใหม่ คือ Horo World และ Thai Merit รองรับผู้ใช้บริการ ทั้งสายมูและสายบุญ

ผลการดำเนินงานที่กระเตื้องขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น มีรายได้รวมเฉพาะไตรมาส 3 จากการดาเนินธุรกิจ จeนวน 2,099 ล้านบาท (หลังหักรายการระหว่างกัน) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนถึง 24%

โดยในไตรมาส 3/65 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย งานตามสัญญาและบริการเป็นจำนวน 2,099 ล้านบาท (หลัง หักรายการระหว่างกัน) โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 24

สายธุรกิจ Digital ในไตรมาส 3/65 บมจ. สามารถ ดิจิตอล (SDC) มีรายได้จากการขายงานตามสัญญาและบริการรวม 57 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสนี้ยังไม่มีการรับรู้การส่งมอบอุปกรณ์วิทยุสื่อสารของโครงข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย (MOI) เพิ่มเติมเหมือนอย่างไตรมาสที่ผ่านมา

สายธุรกิจ ICT Solution and Service รายได้จากการขาย งานตามสัญญาและบริการในไตรมาส 3/65 มีจำนวน 1,200 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 302 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 โดยสาเหตุหลักเพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้รายได้จากงานตามสัญญา

สายธุรกิจ Utilities, Transportations และ Technology Related รายได้จากการขาย งานตามสัญญาและบริการ มีจำนวน 944 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากไตรมาสเดียวกันของปี ก่อนร้อยละ 14 โดยเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสาย ไฟฟ้าแรงสูง สถานีไฟฟ้า และธุรกิจด้านการให้บริการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ