อนุกก.ตลาดฯแนะเร่งขยายฐานผู้ลงทุนผ่านเครือข่ายองค์กรขนาดใหญ่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 7, 2008 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการขยายฐานผู้ลงทุน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะในการเร่งผลักดันให้โครงการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้ สามารถเริ่มให้บริการและเห็นเป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว และยังเห็นควรให้เร่งดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พนักงานขององค์กรขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก และช่วยเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนที่ถูกต้องได้เร็วขึ้น
"ด้วยองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน คณะอนุกรรมการฯ จึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยเชื่อมโยงการทำงานที่เอื้ออำนวยต่อการขยายฐานผู้ลงทุนในตลาดทุนให้ดำเนินไปได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะแผนการไปให้ความรู้เกี่ยวกับทางเลือกการลงทุนแก่ผู้บริหารและพนักงานขององค์กรขนาดใหญ่ อาทิ สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขององค์กรต่าง ๆ รวมทั้ง สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นต้น " นายปกรณ์กล่าว
คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าการให้ความรู้แก่ผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จะมีส่วนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันให้มากขึ้น นอกจากนี้ หากสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งเป็นพนักงานประจำในองค์กร และสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งปัจจุบันรวมแล้วมีอยู่กว่า 3,000,000 คน มีความเข้าใจถึงทางเลือกใหม่ ๆ ในการลงทุน ก็จะเป็นการสร้างความคุ้นเคย และความใกล้ชิดกับตลาดทุนมากยิ่งขึ้น และมีโอกาสที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้นในอนาคต
สำหรับแผนงานที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้และได้รายงานต่อคณะอนุกรรมการขยายฐานผู้ลงทุน เพื่อเร่งเพิ่มจำนวนผู้ลงทุน ได้แก่ รณรงค์ให้มีการพัฒนาระบบ Employee’s Choice เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่พนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
โดยเน้นการสร้างความเข้าใจแก่คณะกรรมการกองทุน ผู้บริหารบริษัท รวมไปถึงพนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุนด้วย รวมถึงการรณรงค์ให้บริษัทจดทะเบียนจัดโครงการ Employee Joint Investment Program หรือ EJIP เพื่อส่งเสริมให้พนักงานบริษัทมีส่วนในการเป็นเจ้าของบริษัท โดยร่วมลงทุนในหุ้นของบริษัทตัวเองเป็นประจำทุกเดือน โดยมีบริษัทร่วมสนับสนุนเงินสมทบแก่พนักงานที่ร่วมโครงการ
นอกจากนี้ การสนับสนุนให้มีการลงทุนผ่านกองทุนรวม LTF& RMF โดยจัดโครงการรณรงค์ให้พนักงานบริษัทใช้สิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ หลังจากที่รัฐบาลได้เพิ่มการหักลดหย่อนภาษีกรณีลงทุนในกองทุนรวม LTF& RMF จาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท ต่อประเภทการลงทุนต่อปี รวมทั้ง การสนับสนุนให้มีการลงทุนใน LTF และ RMF โดยการตัดบัญชีเงินเดือนอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน
รวมถึง การสนับสนุนให้สถาบันการเงินให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการผู้ใช้บริการแบบครบวงจร โดยสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์ตั้งสาขาขนาดเล็ก (Mini Branch) และสาขาธนาคารออนไลน์ (Cyber Branch) ในธนาคารพาณิชย์และศูนย์การค้า โดยปัจจุบันมีสาขาแล้วจำนวน 32 สาขา รวมทั้งการผลักดันให้บริษัทหลักทรัพย์ให้บริการบริหารพอร์ตการลงทุนแก่ลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งการลงทุนในหุ้น พันธบัตร และอนุพันธ์
ทั้งนี้ ทีมงานการตลาดด้านการขยายฐานผู้ลงทุน จะได้นำผลการดำเนินโครงการต่างๆ มานำเสนอต่อคณะอนุกรรมการขยายฐานผู้ลงทุนในการประชุมครั้งต่อไปในไตรมาส 2 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ