MOSHI เคาะ IPO ที่ 21 บาท P/E 28.66 เท่า เปิดจอง 14-16 ธ.ค.เทรดก่อนสิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 13, 2022 11:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 21 บาท/หุ้น โดยมีระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค. 65 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.กสิกรไทย และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 4 ราย ได้แก่ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.ธนชาต บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือน ธ.ค.

การเสนอขายหุ้นสามัญโดยบริษัทฯ ในครั้งนี้ได้มีการกำหนดราคาเสนอขายที่ 21.0 บาทต่อหุ้น หากพิจารณากำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ไตรมาส 4/64 ถึงไตรมาส 3/65) ซึ่งเท่ากับ 219.82 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด 300,000,000 หุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.73 บาทต่อหุ้น และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) ประมาณ 28.66 เท่า

MOSHI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม จำนวนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น และเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท

วัตถุประสงค์การระดมเงินทุนจาก IPO ในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนขยายสาขา และการลงทุนโครงการในอนาคต เช่น การเปิดสาขารูปแบบร้านค้าปลีกนอกห้างสรรพสินค้า (Stand alone) และรูปแบบร้านค้าแฟรนไชส์ (Franchise) เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาสาขาเดิม และการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เช่น การพัฒนาระบบ Supply Chain และระบบการขายสินค้าหน้าร้าน (Point of Sale System) เป็นต้น จำนวน 400-450 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 55.99-105.99 ล้านบาท และใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน 754.01 ล้านบาท

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวว่า การเข้าระดมทุนใน SET จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจและความแข็งแกร่งด้านฐานะทางการเงินรองรับการขยายธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ภายใต้วิสัยทัศน์ "เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเน้นคุณภาพ สรรสร้างการออกแบบที่เป็นเลิศในราคาที่แข่งขันได้ และคงไว้ซึ่งความนิยมของผู้บริโภคเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ Moshi Moshi เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า

MOSHI มีส่วนแบ่งการตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์สูงสุดตั้งแต่ปี 62 และในปี 64 Market Share ยังเป็นอันดับหนึ่ง 37.6% ปัจจุบันมีสาขา 101 สาขา ครอบคลุม 41 จังหวัด มุ่งเน้นด้านการพัฒนาและออกแบบสินค้าใหม่ที่หลากหลาย ทั้งประเภทสินค้า รูปแบบและลวดลายให้น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและแนวโน้มเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความประทับใจและเพิ่มประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าให้แก่ผู้บริโภค

กลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านแนวทางการขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ศักยภาพทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด รวมถึงหัวเมืองใหญ่ ตั้งเป้ามีสาขารวมกันไม่ต่ำกว่า 165 สาขาภายในปี 68 เพิ่มการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าใหม่ปีละมากกว่า 8,000 SKUs ออกสินค้าในลักษณะ Collection สินค้าตาม Seasonal และสินค้าลิขสิทธิ์การ์ตูนยอดนิยมเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า การจัดเซ็ทสินค้าเพิ่มมูลค่าการซื้อและจัดทำ Visual Merchandise เพื่อ Display สินค้า และใช้กลยุทธ์ Co-Branding ร่วมกับ Influencer

พร้อมทั้ง เพิ่มความสามารถในการเติบโตของกำไร โดยปรับสัดส่วนสินค้า (Product Mix) มุ่งเน้นสินค้าที่มีกำไรสูง ออกแบบบรรจุภัณฑ์/ลวดลายสินค้าให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มมูลค่า ในขณะที่สามารถลดขั้นตอนการผลิตเพื่อลดต้นทุน แต่ยังคงเอกลักษณ์และความน่าสนใจของสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายทำให้การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ ลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) อย่างต่อเนื่อง

พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและธุรกิจใหม่ๆ ให้ความสำคัญกับช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ (Online) นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายสาขาในรูปแบบ Stand alone ในพื้นที่ใกล้แหล่งชุมชน โรงเรียน และสถานที่ทำงาน อีกทั้งเตรียมขยายสาขาในรูปแบบ Franchise ในจังหวัดรอง เพื่อต่อยอดธุรกิจสู่การเติบโตในอนาคต และ พัฒนาทรัพยากรบุคคลในแต่ละสาขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานขายหน้าร้านและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

นางสาวศุภรดา โรจน์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน MOSHI กล่าวว่า การที่ MOSHI เป็นบริษัทสัญชาติไทย ทำให้มีฝ่ายจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง ซึ่งมีความเข้าใจตลาดจึงสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการออกแบบร้านที่โดดเด่น การใช้สีและแสงที่เข้ากับร้าน และการจัดผังร้านค้า (Store Layout) ให้มีเอกลักษณ์ เพื่อสร้างความแตกต่างจากร้านค้าของผู้ประกอบการรายอื่น

บริษัทคาดว่าทิศทางผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 65 จะยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆกลับมา และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนด้วย

ผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 1,263.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 1,253.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 788.40 ล้านบาท โดย SSSG เพิ่มขึ้น 50.1% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวและการเปิดประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ดีขึ้น ประกอบกับจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น 6 สาขาในช่วง 9 เดือนแรกได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 134.63 ล้านบาท เติบโต 192% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายในอัตราที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร

MOSHI มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท โดยมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 240 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 240 ล้านหุ้น จะเสนอขาย IPO ไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 15 ล้านหุ้น และหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการ IPO


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ