(เพิ่มเติม) BBL คาดปี 51 สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก-NIM ใกล้เคียงปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 11, 2008 18:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)  คาดปี 51 ธนาคารจะมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีอัตรา 3.15% เนื่องจากในปีนี้การแข่งขันระหว่างธนาคารจะมีความรุนแรง ส่งผลต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งปีนี้มีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทรงตัวจากปีก่อนที่มีอัตราดอกเบี้ยลดลง 
" NIM ปีนี้ คงไม่แตกต่างจากปีก่อน อยู่ที่ว่าเราจะสามารถรักษา NIM ไว้ได้อย่างไร เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าการแข่งขันต้องปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และดอกเบี้ยก็คงทรงตัว การที่เรามีลูกค้าที่หลากหลายเราก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง" นายชาติศิริ กล่าว
ทั้งนี้ในส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก ในปีนี้ก็คงจะอยู่ในอัตราใกล้เคียงกับปีก่อน หรืออาจจะเห็นบวกลบ 1-2% จากปีก่อนที่มีอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่ 80% อย่างไรก็ดี สินเชื่อต่อเงินฝากจะเติบโตหรือไม่ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ แต่ธนาคารก็จะพยายามรักษาสภาพคล่อง เพราะจะทำให้การบริหารจัดการได้ภายใต้ความผันผวนเช่นนี้
สำหรับ การลงทุน CDO ของธนาคารคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนตามปกติ และคงไม่เกิดการ default โดยที่ผ่านมาธนาคารได้กันสำรอง CDO 1,070 ล้านบาท ตาม mark to market และอาจตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามสภาพตลาด
ด้านนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร BBL กล่าวว่า ในปีนี้ ธนาคารจะให้ความสำคัญในเรื่องของสาขาในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอใบอนุญาตจากทางการจีนเพื่อรองรับการขยายงานในปีนี้ โดยธนาคารคาดหวังจะได้ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจธนาคารในจีนภายในสิ้นปีนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่
นอกจากนี้ ตลาดอินเดียก็ถือเป็นประเทศที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันมีความสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ทั้งในแง่การเติบโตในด้านเศรษฐกิจที่มาก
สำหรับปีนี้ ธนาคาคามองว่าจะขยายพอร์ตสินเชื่อด้านการเกษตรให้มากขึ้นหลังจากที่สินค้าเกษตรมีราคาปรับสูงขึ้น โดย BBL จะเข้าไปขยายสินเชื่อสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ซึ่งได้ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อด้านเกษตรในปีนี้ที่ 1 หมื่นล้านบาท
*ยังคงเจรจากับ ICBC ระบุ ธปท.เป็นตัวตัดสินด้วย
นายชาติศิริ กล่าวถึงความคืบหน้าการขายหุ้นธ.สินเอเซีย ที่ถืออยู่ 19% ว่าขณะนี้ ธนาคารกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า (ICBC)จากจีน แต่จะเจรจาสำเร็จหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่การพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ด้วย โดยธนาคารจะประสานงานในเรื่องดังกล่าวกับธปท.อย่างใกล้ชิด
"การจะขายได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา ตอนนี้ขึ้นอยู่กับแบงก์ชาติอย่างเดียวว่าจะพิจารณาออกมาในรูปแบบใด เพราะตอนนี้ติดขัดในเรื่องของกฎหมาย ส่วนระยะเวลาจะนานกว่าที่กำหนดหรือไม่ ผมไม่กังวลในเรื่องของค่าปรับ" นายชาติศิริ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ