โบรกฯ ระบุข่าวดีของ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กำลังจะมา หลังจากขายหุ้นโครงการ BKR2 บางส่วนออกไป ทำให้จะมีการปิดดีลโครงการ Wind ที่ UK ซึ่งเป็น Renewable ขนาดใหญ่ได้เร็วๆ นี้ เพื่อมาทดแทน ซึ่งถือเป็นข่าวดีเนื่องจากเป็นดีลขนาดใหญ่หลังจากการเข้าซื้อ Jackson (โรงไฟฟ้าก๊าซที่สหรัฐฯ) เมื่อ ก.ย. ปีที่แล้ว
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"หุ้น GULF มองบวกแนวโน้มธุรกิจ คาดว่าแนวโน้มกำไร Q1/66 โดดเด่นต่อเนื่อง และข่าวดีเรื่องดีลโครงการขนาดใหญ่จะเป็นแรงหนุนต่อราคาหุ้น
ผู้บริหารวางเป้าหมายเพิ่มพอร์ต Renewable เป็น 10,000 MW ภายใน 10 ปี จากปัจจุบัน 1,047 MW ทั้งในไทยผ่านโครงการ Renewable ของภาครัฐ ซึ่ง GULF เข้าร่วมคัดเลือกราว 1,000 MW ทั้ง Solar, Wind, Solar+ESS ร่วมกับพันธมิตรหลากหลายกลุ่ม รวมถึง GUNKUL และในต่างประเทศในเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย
นอกเหนือการรุกธุรกิจ Renewable แล้ว GULF ยังให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจ Digital ด้วย GULF ยืนยันว่าไม่มีแผน Delisting หุ้น INTUCH แต่จะมองหาโอกาสลงทุนใหม่สำหรับ INTUCH หลังจากขาย THCOM โดยหลักการลงทุนจะเหมือนกับการที่ GULF ตัดสินใจลงทุนใน INTUCH คือเป็นบริษัทที่ดี ทั้งที่จดทะเบียนใน SET และไม่จดทะเบียน ได้รับเงินปันผลสม่ำเสมอ เพื่อใช้หุ้นเป็นหลักประกันในการจัดหาเงินทุนสำหรับการลงทุนใหม่ได้
เรามองว่า INTUCH มีศักยภาพสูงมากในการลงทุนใหม่จากเงินปันผลรับจาก ADVANC ราว 9 พันลบ.มีฐานทุนขนาดใหญ่ 3.6 หมื่นลบ. แต่ไม่มีหนี้สินใดๆ สำหรับธุรกิจ Data Center (GULF ถือหุ้น 40% ร่วมกับ Singtel 35% และ AIS 25%) ได้เริ่มก่อสร้างแล้วขนาด 20 MW ที่บางพลี สมุทรปราการ โดยคาดเปิดให้บริการในปี 68 และมีแผนขยายต่อเนื่องอีก 40-60 MW
ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น เนื่องด้วยการขายหุ้น BKR2 บางส่วน ทำให้เปลี่ยนสถานะจาก บ.ย่อย เป็น JV ส่งผลให้หนี้สินในงบการเงินรวมลดลงด้วย -7.1 พันลบ.อีกทั้งฐานทุนใหญ่ขึ้นจากกำไรสะสม ทำให้อัตราส่วน Net IBD/E ลดลงจาก 1.89x เหลือ 1.52x ซึ่งต่ำกว่า Covenant (3.5x) อยู่พอสมควร
เมื่อเดือนที่แล้ว ทริสเรทติ้งได้เพิ่มอันดับเครดิตจาก "A" เป็น "A+" ด้วยเหตุผลว่ากระแสเงินสดของ GULF มีความแข็งแกร่งขึ้นตามการ COD โครงการ IPP พอร์ตมีการกระจายตัว และการพิสูจน์ได้ว่าสามารถพัฒนาโครงการให้เสร็จตามกำหนด ทั้งนี้ GULF ตั้งงบลงทุน 1.7 แสนลบ.ใน 10 ปีข้างหน้าโดย 80% เป็น Renewable การได้เพิ่มอันดับเครดิตครั้งนี้จึงช่วยการจัดหาเงินทุนได้คล่องตัวมากขึ้นและด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
แนวโน้มกำไร Q1/66 โดดเด่นต่อเนื่อง แม้จะรับรู้กำไรจาก BKR2 ลดลง และไม่มีรายการพิเศษ (กำไรจากเงินลงทุน 570 ลบ.) แต่คาดแนวโน้มกำไรปกติจะโดดเด่นต่อเนื่องด้วยแรงหนุนจาก 1) การปรับขึ้นค่า Ft และราคาก๊าซลดลงซึ่งจะทำให้มาร์จิ้นของโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้น 2) กำไรที่สม่ำเสมอจากโรงไฟฟ้า IPP ที่เดินเครื่องแล้ว; 3) OPEX ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล และ 4) คาดปิดดีล Jackson (588 MWe) ได้สิ้น ก.พ. ทำให้เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Jackson ได้ราว 1 เดือน