AS ประกาศ Rebraning รับการเติบโตครั้งใหม่ ขยายสู่ Blockchain & Innovation Technologies เต็มตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 7, 2023 14:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

AS ประกาศ Rebraning รับการเติบโตครั้งใหม่ ขยายสู่ Blockchain & Innovation Technologies เต็มตัว

นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ (ASPHERE) แต่ยังคงใช้ชื่อย่อว่า AS เพื่อตอกย้ำการดำเนินธุรกิจจากนี้จะไม่ใช่แค่ ธุรกิจเกมออนไลน์ แต่จะครอบคลุมไปถึงธุรกิจ Blockchain&Innovation Technologies, ธุรกิจสื่อและการตลาด, ธุรกิจเงินร่วมลงทุน เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการขยายขอบเขตการทำธุรกิจจากเดิมอยู่ในตะวันออกเฉียงใต้ ให้ไปทั่วโลก เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต

สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,622.60 ล้านบาท โดยยังคงมาจากธุรกิจเกมออนไลน์เป็นหลัก ประมาณ 85% และคาดจะเริ่มรับรู้รายได้จากแพลตฟอร์ม Astronize อีกราว 10% รวมถึงหากการลงทุนในบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (buzzebees) ประสบผลสำเร็จ ก็จะสร้างรายได้เข้ามาเพิ่มราว 10%

ธุรกิจเกมออนไลน์ (ภายใต้บริษัท เพลย์พาร์ค จำกัด) ปีนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวเกมใหม่จำนวน 11 เกม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมจากประเทศจีนที่ถูกเลื่อนเปิดตัวจากปีก่อนมาเปิดในปีนี้แทน หลังจากปีก่อนจีนปิดประเทศ เช่น เซียนกระบี่สามภพ คาดเปิดตัวได้ในครึ่งปีแรกนี้, Onmyoji Arena คาดเปิดตัวได้ไตรมาส 1/66, Cyber Fantacy คาดเปิดตัวในไตรมาส 1-2 นี้, PlayPark Streetballers คาดเปิดตัวไตรมาส 2/66, Tower of Fantacy คาดเปิดตัวไตรมาส 2/66, Noah' s Heart คาดเปิดตัวไตรมาส 2/66, Black Moon คาดเปิดตัวไตรมาส 2/66, Dao Jian คาดเปิดตัวไตรมาส 2-3 นี้, Wandering Ark คาดเปิดตัวไตรมาส 3-4 นี้, 3 Kindoms from the wind คาดเปิดตัวไตรมาส 3-4 นี้, Project B3 คาดเปิดตัวไตรมาส 3-4 นี้ และ 9 Dragon คาดเปิดตัวไตรมาส 4/66 เป็นต้น

โดยกลยุทธ์การเลือกเกมยังคงเน้นเปิดให้บริการเกมแนว Role-Playing Game (RPG) ที่บริษัทฯ มีจุดแข็งและเป็นแนวเกมที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด และมีแผนจะเริ่มมองหาพันธมิตรบริษัทผู้พัฒนาเกมใหม่ ๆ จากภูมิภาคอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากเดิมที่อยู่ในโซนทวีปเอเชียทั้งหมด เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า รวมถึงมุ่งเน้นการบริหารช่องทางการชำระเงินเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้จะมีการนำเทคโนโลยี AI ด้านการตลาดและการวิเคราะห์ข้อมูลมาเสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการเกมในลักษณะ Segmentation ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำแคมเปญทางการตลาดและผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment) ที่ดีขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้ยังได้เตรียมนำเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาประยุกต์ใช้ โดยจะมีการออก PlayPark NFT ซึ่งเป็นรูปแบบ Membership Privilege ที่จะมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกที่ถือครอง และการออก PlayPark Token เพื่อใช้ในการทำ CRM Program ที่ลูกค้าจะสามารถสะสม Token ที่ได้จากการเล่นเกม การใช้จ่าย รวมถึงการทำภารกิจต่าง ๆ และนำ Token มาใช้แลกรับสิทธิพิเศษ ของขวัญ ของรางวัล หรือร่วมกิจกรรมพิเศษต่างๆ

นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด หนึ่งในธุรกิจของ AS กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์ม Astronize ซึ่งเป็น Hybrid Web 3.0 Game Platform รายแรกในภูมิภาค มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผน โดยบริษัทฯ ได้ทำการแต่งตั้งที่ปรึกษา (ICO Portal) ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในช่วงการเตรียมเอกสารการยื่นขออนุญาตเสนอขาย Utility Token แก่สาธารณะ (ICO) เพื่อสำหรับใช้งานภายใต้ระบบนิเวศของ Astronize ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. โดยคาดหวังว่าจะสามารถเสนอขาย ICO ได้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ พร้อมกับการเปิดตัวเกมทันทีหลังจาก ICO จำนวน 2 เกมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ TS Multiverse ซึ่งเป็นเกมแนว SRPG ในรูปแบบ Free-to-Play & Earn ที่ถูกพัฒนาและปรับแต่งมาจากเกม TS Mobile สุดคลาสสิกที่เคยทำให้เอเชียซอฟท์ฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วนับตั้งแต่ปี 62 และเกม Clash of Thrones ซึ่งเป็นเกม NFT Idle RPG รูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากเกม Idle RPG ทั่วไป

บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจะมีผู้ใช้บริการบนแพลตฟอร์ม Astronize ทันทีหลังจากเปิดตัว 2 เกมไม่น้อยกว่า 500,000 คน และเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคนภายใน 1 ปี ด้วยแผนการเปิดตัวเกมใหม่เพิ่มเติมทุกไตรมาส และตั้งเป้ารายได้แตะ 1 พันล้านบาทภายใน 3 ปีนับจากเปิดให้บริการ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 67%

"จาก 2-3 ปีที่ผ่านมา โมเดลธุรกิจของ GameFi ได้ผ่านบทพิสูจน์มามากพอสมควร และรูปแบบที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จและมีความยั่งยืนที่สุดในปัจจุบันคือรูปแบบ Free-to-Play & Earn โดยเฉพาะการนำเอาเกม Traditional (Web 2.0) ที่มีคุณภาพสูงและความสนุกสนานมาผสานเข้ากับเทคโนโลยี Blockchain (Web 3.0) เพื่อนำมาให้บริการในรูปแบบ Hybrid เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานในการเล่นเกมอย่างแท้จริงคือความสนุก แต่ผู้เล่นสามารถได้ผลตอบแทนหรือ Earn จากการเล่นควบคู่ไปด้วยและสามารถแลกเปลี่ยนไอเทมในเกมกับผู้เล่นอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยด้วยการแปลงเป็น NFT ซึ่งแตกต่างจากเกม Web 3.0 ที่เปิดให้บริการด้วยโมเดล Play-to-Earn ที่เน้นการลงทุนก่อนเข้าเล่น เพื่อหวังผลตอบแทนเป็นหลัก แต่คุณภาพของเกมยังไม่สามารถตอบโจทย์ด้านความสนุกที่แท้จริงได้ ซึ่งเชื่อว่าเกม Web 3.0 จะยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาด้านคุณภาพให้เทียบเท่าเกมยุค Web 2.0 และค้นหาโมเดลทางธุรกิจที่เหมาะสมและยั่งยืนอย่างน้อยอีก 2-3 ปี" นายกิตติพงศ์ กล่าว

กลุ่มธุรกิจ Blockchain and Innovation Technologies ได้เตรียมก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Metaverse ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต โดยได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับพันธมิตรเพื่อเข้าลงทุนในโปรเจกต์ Big Bang Theory ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการ Metaverse as-a-service รายแรกของโลก เพื่อช่วยให้ลูกค้าองค์กรหรือแบรนด์สินค้าต่างๆ สามารถสร้าง Metaverse ของตนเองด้วย module สำเร็จรูปอย่างง่ายดายภายในเวลาเพียง 10 นาที และด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำในรูปแบบ pay per use อีกทั้งยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อฟังก์ชั่นทางธุรกิจมากกว่า 30 ฟังก์ชั่น อาทิ e-commerce, communication, virtual space, streaming, gamification หรือเชื่อมต่อกับโลก Web 3.0 เพื่อสร้าง Token หรือ NFT เป็นต้น ซึ่งแพลตฟอร์มได้เริ่มเปิดให้บริการ soft launch ไปตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ โดยคาดว่าจะเข้าลงทุนแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66 และวางงบลงทุนไว้ราว 20 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจสื่อและการตลาด บริษัทฯ มีความสนใจในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ MarTech โดยขณะนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (Buzzebees) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน Customer Relationship Management (CRM) Platform ครบวงจรรายใหญ่อันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคน และมีระบบนิเวศที่รองรับผู้ประกอบการทั้งในระดับองค์กรและผู้ค้าปลีก ซึ่งการลงทุนครั้งนี้นอกจากบริษัทฯ จะได้นำระบบ CRM มาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด ทำให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งแล้ว ยังช่วยให้บริษัทฯ มีรายได้ที่แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นจากหลากหลายธุรกิจ ในขณะเดียวกัน เอเชียซอฟท์ฯ สามารถช่วยให้บัซซี่บีส์ขยายธุรกิจสู่ตลาดในระดับภูมิภาค เนื่องจากเอเชียซอฟท์ฯ มีความเข้าใจตลาดและดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานกว่า 17 ปี คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ