นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ปี 66 มีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปี 65 ที่มีรายได้ 3,438 ล้านบาท โดยแรงสนับสนุนจากงานใหม่ๆ ที่จะเข้ามา นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าตามกลยุทธ์ New S-Curve พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Digital Transformation ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ซึ่งล่าสุดมีงานในมือ (Backlog) รวม 3,084 ล้านบาท
แผนธุรกิจในปี 66 ด้วยโมเดลธุรกิจของ ITEL ที่มีรายได้จากการให้บริการโครงข่ายซึ่งเป็นรายได้ประจำและมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้รายได้ค่อนข้างมั่นคงและสามารถต่อยอดได้ รวมทั้งการใช้งานบริการต่างๆ จากฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น สนับสนุนให้บริษัทฯสามารถ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การให้บริการติดตั้งโครงข่ายที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลายๆ ค่าย ก็เป็นส่วนสำคัญในการเติบโต และยังรวมไปถึงบริการศูนย์รับฝากข้อมูล (Data Center) ที่เป็นส่วนผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตได้ดีเช่นกัน หลังประสบความสำเร็จจากปี 65 ที่ได้ร่วมมือกับ ETIX EVERYWHERE พันธมิตรระดับโลก โดย ITEL ถือหุ้น 33% และ ETIX ถือหุ้น 67% ในนาม ETIX-ITEL และเปิดตัว Data Center แห่งใหม่ ETIX Bangkok 1 ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม.19 โดยขณะนี้มีลูกค้าใช้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจะขยาย ETIX Bangkok 2 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าแห่งแรกถึง 3 เท่า เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 66 ทาง ITEL ยังมีประเด็นสำคัญในการนำธุรกิจย่อย คือ บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (BS) ซึ่ง ITEL ถือหุ้น 51% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำไฟลิ่งตามขั้นตอนเพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดย BS มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชั่น
นายณัฐนัย กล่าวด้วยว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิชุดที่ 3 (ITEL-W3) จะเหลือระยะเวลาการใช้สิทธิ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 6 ในระหว่างวันที่ 24-30 มี.ค.66 ซึ่งประมาณการรับหุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์จะเข้าซื้อขายประมาณวันที่ 7 เม.ย.66 และแปลงสิทธิครั้งสุดท้าย 12 เม.ย.66 วันซื้อขายครั้งสุดท้าย คือ วันที่ 17 มี.ค.66 กำหนดขึ้น SP วันที่ 20 มี.ค.-12 เม.ย.66 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย.66
ทั้งนี้ ได้กำหนดระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายตั้งแต่ วันที่ 28 มี.ค.-11 เม.ย.66 ราคาใช้สิทธิ 3.30 บาทต่อหุ้น อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ หลังจากนั้นวันที่ 13 เม.ย.66 จะเป็นวันพ้นสภาพเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ซึ่งประมาณการรับหุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพเข้าซื้อขายประมาณวันที่ 28 เม.ย.66
อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิทั้ง 2 รอบดังกล่าวนั้นหุ้นที่ได้รับจากการแปลงสิทธิจะมีสิทธิได้รับเงินปันผลที่อนุมัติอัตราหุ้นละ 0.0635 บาท/หุ้น
สำหรับผลการดำเนินงานปี 65 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีรายได้ 3,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 929 ล้านบาท หรือ 37% จากปี 64 และมีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 64 โดยมีการเติบโตในทุกธุรกิจ ที่สืบเนื่องมาจากการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ทำให้สามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น
"ที่สำคัญ ITEL สามารถรักษาฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดความสำเร็จในการขยายบริการเพิ่มเติม เช่น งาน Drone & Anti-Drone, งาน Smart CCTV และอื่นๆ โดยอาศัยจุดแข็งจากโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพของโครงข่ายที่เหนือระดับ ทำให้เพิ่มศักยภาพการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า สร้างรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้ต่อยอดความสำเร็จในกลยุทธ์ New S-Curve ที่เป็นการให้บริการด้านงาน Big Data, Security และ IoT รวมถึงการเข้าถือหุ้น 51% ใน บลู โซลูชั่น ทำให้มีรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายเพิ่มขึ้นถึง 638 ล้านบาท" นายณัฐนัย กล่าว