ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับฐานขึ้น และแรงซื้อที่ส่งเข้าพยุงหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ หลังจากบริษัทแกล็คโซสมิธไคลน์รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 48.9 จุด หรือ 0.81% แตะระดับ 6,083.6 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,978.8-6,083.6 จุด เดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จากไอจี อินเด็กซ์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนขานรับการดีดตัวขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากบริษัทโบอิ้งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์" หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์พุ่งขึ้น หลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอนุมัติให้บริษัมไชร์นำยา Vyvanse เข้าไปจำหน่ายในสหรัฐได้ ซึ่งยาตัวนี้ใช้รักษาโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ ทั้งนี้ หุ้นไชร์พุ่งขึ้น 60 เพนซ์ ปิดที่ 979 เพนซ์ ส่วนหุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ปรับตัวขึ้น 18 เพนซ์ ปิดที่ 1120 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ และหุ้นแอสทราซิเนก้าพุ่งขึ้น 55 เพนซ์ ปิดที่ 2132 เพนซ์ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น โดยหุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 1.3% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.5% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 4.0% ส่วนหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่นั้น หุ้นเอ็กซ์สตราตาปิดพุ่งขึ้น 2.6% หุ้นอันโตฟากัสตาดีดขึ้น 2.5% หุ้นอีเอ็นอาร์ซีพุ่งขึ้น 8.3% หุ้นลอนมินซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินั่มขยับขึ้น 0.5% หลังจากบริษัทรายงานว่ายอดขายพลาตินั่มเพิ่มขึ้น 8.3%