นายชนน วังตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) เปิดเผยว่า บริษัทแผนเดินหน้ารีแบรนด์ดิ้งอย่างเป็นทางการโดยเปลี่ยนชื่อเป็นบมจ.เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น (AKS) จากการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยความมุ่งมั่นมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันเล็งเห็นถึงสภาวะแห่งความไม่แน่นอนและปัจจัยรอบด้านที่กระทบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทางบริษัทจึงตัดสินใจปรับธุรกิจสู่รูปแบบ Holding Company เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจเดียว ภายใต้ชื่อใหม่ AKS ที่มาจาก A - ASSET (สินทรัพย์) K - KNOWLEDGE (ความรู้และความเชี่ยวชาญ) และ S - SUCCESS (ประสบความสำเร็จ) หมายถึง การใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ เพื่อพัฒนา ต่อยอดสินทรัพย์และธุรกิจของบริษัทให้เติบโตและประสบความสำเร็จ
"ทางบริษัทคำนึงถึงโอกาสการเติบโต ผลประโยขน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นเป็นหลัก จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทเพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์และทิศทางใหม่ที่ชัดเจน ให้ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ กระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังธุรกิจที่หลากหลายที่มองว่าปลอดภัยและมีโอกาสในการสร้างกำไร จากประสบการณ์และความชำนาญของทีมบริหาร โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เงินไม่จม สามารถสร้างผลตอบแทนและกำไรดี โดยทางบริษัทฯ ใช้เงินหมุนเวียนภายในมาปล่อยกู้เพื่อนำผลตอบแทนของดอกเบี้ยมาขยายการลงทุนทางธุรกิจอื่นๆต่อไป" นายชนน กล่าว
นายวรวุฒิ ไหลท่วมทวี กรรมการบริหารบริษัท AKS กล่าวว่า นอกจากธุรกิจด้านสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว ทางบริษัทยังมีแผนจะเน้นลงทุนในธุรกิจกัญชง-กัญชาด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทมองว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ดี อีกทั้งยังสามารถสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการแพทย์และ wellness ของประเทศ นอกจากนี้สามารถต่อยอดไปยังธุรกิจประเภทอื่นๆของบริษัทได้ในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจต้นน้ำ และกำลังพิจารณาโอกาสที่จะขยับสู่ธุรกิจปลายน้ำ ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นต่อไปในอนาคต
ด้านแผนการดำเนินงานทางบริษัทคาดว่าในครึ่งปีหลังจะสามารถสร้างรายได้และผลกำไรได้มากขึ้น จากการปรับแผนโครงสร้างธุรกิจที่ชัดเจน และแผนการขายโครงการชั้นนำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/66
ทั้งนี้ ปัจจุบัน AKS ดำเนินธุรกิจอยู่ทั้งสิ้น 5 กลุ่มธุรกิจ คือ
1. ธุรกิจ Real estate ซึ่งมีโครงการชั้นนำเปิดขายอยู่ต่อเนื่องควบคู่ไปกับการเสาะหาทำเลที่ดินที่มีศักยภาพเพื่อสร้างมูลค่าให้กับบริษัท
2. ธุรกิจ Hospitality บริษัทฯ มีโรงแรมขนาดกลาง ที่รองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ฟื้นตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้ของประเทศไทย
3. ธุรกิจ Renewable Energy ทางบริษัท ได้เลือกลงทุนร่วมกับโครงการชั้นนำของภูมิภาค อาทิ บริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด (GEP) และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง 4. ธุรกิจ Personal Loan บริษัทฯ ได้เข้าลงทุน ในบริษัท เอ็ม เอส ซี ดับเบิลยู จำกัด (MSCW) ที่ประกอบธุรกิจ PLOAN ทั่วประเทศ และ บริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (PICO) ที่ประกอบธุรกิจ pico finance ในจังหวัดเศรษฐกิจหลักของประเทศ และ 5. ธุรกิจ Cannabis Industry ที่ได้เข้าไปลงทุนใน บริษัท อีโกรนิกซ์ จำกัด หรือ EGRONIX