CryptoShot: KBANK เทค Satang Pro เปลี่ยนโฉมเป็น Orbix เปิดให้บริการก่อนสิ้นปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 2, 2023 17:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เรียกว่าข่าวดังลั่นฟ้าเมืองไทย เมื่อแบงก์ใหญ่อย่างกสิกรตัดสินใจซื้อเว็บเทรด Satang Pro 97% เพื่อปั้นแบรนด์ "Orbix" งานนี้เหมือนช้างชนช้าง เมื่อกสิกรไทยมี Orbix และไทยพาณิชย์มี InnovestX แถมตลาดหลักทรัพย์ก็มี TDX แต่ลืมกันไปรึเปล่าว่า ก.ล.ต. สั่งห้ามไม่ให้ธนาคารยุ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นเหตุให้ SCB ต้องมีการปรับโครงสร้างไปก่อนหน้านี้ แต่ KBANK กลับซื้อ Satang Pro หรือ ก.ล.ต. จะมีเซอร์ไพรส์รออยู่??

*KBANK เทค Satang Pro เปลี่ยนโฉมเป็น Orbix พร้อมให้บริการก่อนสิ้นปีนี้

หลังจากที่เคยมีข่าวแบงก์สีม่วงจะซื้อเว็บเทรดสัญชาติไทยสีเขียว แต่ดีลก็ล่มไปเสียก่อน มาวันนี้ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ได้ประกาศทำการเข้าซื้อหุ้น 97% ของ Satang Pro ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

Satang Pro ถือเป็นหนึ่งในเว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรก ๆ ของคนไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นจะใช้ชื่อว่า TDAX โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2560 แต่หลังจากนี้ธนาคารกสิกรไทยจะทำการปรับโฉมและเปลี่ยนชื่อเป็น Orbix ซึ่งประกาศจะเปิดให้บริการภายในเดือน พ.ย. นี้

การเปลี่ยนโฉมนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนชื่อ แต่เป็นการยกระดับการให้บริการเพิ่มเติมด้วย โดยจะมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่หลาย ๆ อย่าง เพื่อให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Orbix ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นสนุกและน่าสนใจ

แต่มีจุดหนึ่งที่น่าคิด จำได้หรือไม่ว่า ก.ล.ต. ออกเกณฑ์มาว่าไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ข้องเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ค่ายสีม่วงต้องทำการปรับโครงสร้างต่าง ๆ แต่สำหรับค่ายเขียวคราวนี้เรียกว่าแบงก์ซื้อ Satang Pro โดยตรง ถือว่าผิดเกณฑ์หรือไม่ หรือว่า ก.ล.ต. จะมีเซอร์ไพรส์ งานนี้สงสัยต้องรอดูกันยาว ๆ

*SafeMoon ส่อแววไม่ Safe หลัง SEC สหรัฐฟ้องข้อหาฉ้อโกง-ฟอกเงิน

เมื่อ 2 ปีก่อนมีเหรียญใหม่ที่น่าสนใจมาก ๆ ออกมาชื่อว่าเหรียญ Safemoon โดยเหรียญนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากเหรียญอื่นทั่วไปคือเมื่อมีการโอนเหรียญ จะมีค่าโอนเกิดขึ้น และค่าโอนส่วนหนึ่งจะถูกนำไปแจกจ่ายให้คนที่ยังถือเหรียญอยู่ อีกส่วนหนึ่งนำไปเพิ่ม liquidity อัตโนมัติ และบางส่วนก็นำไปเผาทิ้ง เรียกได้ว่ายิ่งถือก็มีแต่เพิ่ม โอนไปขายเมื่อไรก็มีแต่ลด

เมื่อทุกคนเห็นเหรียญคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ แบบนี้ ก็พากันซื้อและบอกต่อ ๆ กัน จนมูลค่าตลาดสูงสุดของ Safemoon เคยขึ้นไปถึงกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ และมีเหรียญ Safe ต่าง ๆ ตามออกมามากมาย

แต่หลังจากนั้นสักพัก เมื่อตลาดคริปโทฯ เป็นขาลง เหรียญนี้ก็ซบเซา ราคาลดลงต่อเนื่อง ทั้งยังมีข่าวโดนผู้ใช้งานรวมตัวกันฟ้อง โดนแฮ็กเกอร์ตามแฮ็กอีกมากมาย จนในวันนี้ล่าสุดก็ถึงคราวของ SEC สหรัฐเป็นผู้ฟ้อง SafeMoon และผู้ก่อตั้ง ในข้อหาดำเนินการโครงการทุจริตขนาดใหญ่ผ่านการขายสินทรัพย์คริปโทฯ ที่ไม่ได้ลงทะเบียน, ฉ้อโกงหลักทรัพย์, ฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ต และฟอกเงิน

เรียกได้ว่าแต่ละข้อหาจัดมาเน้น ๆ หนัก ๆ ทั้งนั้น ผลสรุปในอนาคตของเรื่องนี้ก็คงต้องถือเป็นบทเรียนแก่ทั้งผู้ออกเหรียญและผู้เลือกซื้อเหรียญในอนาคตได้ดี

*Tether เผยสัดส่วนเงินสดสำรองในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่เคยมีมา

Tether Holdings Limited หรือที่เรารู้จักกันในฐานะบริษัทผู้ออกเหรียญ USDT ซึ่งเป็น Stablecoin ตัวหลักที่เราใช้แทนเงินดอลลาร์กันในโลกคริปโทฯ ได้ประกาศผลการตรวจสอบทางการเงิน Q3/2023 จากบริษัทตรวจสอบอิสระชื่อดังมาแล้ว

ปัจจุบัน Tether มีส่วนของเงินสดและสินทรัพย์ที่เทียบเท่าเงินสด (Cash and Cash Equivalents) ในสำรอง (Reserve) สูงถึง 85.7% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เคยมีมาเลย

รายงานนี้ได้เปิดเผยว่า Tether มีการบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการลดหนี้และการเพิ่มส่วนของเงินสดและสินทรัพย์ที่เทียบเท่าเงินสดใน Reserve ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดคริปโทฯ แต่ถ้าคิดในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ Tether ลดการลงทุนมาถือแต่เงินสดสำรอง อาจจะเป็นการบ่งบอกถึงสถานะของตลาดว่าตอนนี้ไม่มีตลาดไหนที่น่าลงทุนอีกต่อไปแล้วก็เป็นได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม จากรายงานนี้ก็ทำให้ผู้ที่ถือ USDT ทุกคนสบายใจขึ้นได้แน่นอน

https://youtu.be/eATdic9o7AI


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ