เก็บตกบรรยากาศงาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ภายในงานมีการถกเถียงและแชร์มุมมองอย่างดุดันไม่เกรงใจใคร ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านกฎหมาย และเทคโนโลยี จาก น.ต. ศิธา ทิวารี นักการเมืองฝีปากกล้า อดีตลูกพรรคไทยสร้างไทย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกล ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และนายสิทธิพล พรรณวิไล (หนูเนย) เจ้าของบล็อก nuuneoi.com ตัวพ่อสายเทค กับ session พิเศษบนวที "แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน"
น.ต.ศิธา ชี้ประเด็นทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจการแจกจ่ายเงินดิจิทัลให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และ Helicopter Money ที่ต้องการให้เงินลอยอยู่ในระบบให้นานที่สุด เพื่อสร้างการหมุนเวียนของเงินแบบไม่รู้จบ รวมถึงข้อจำกัดในการรับเงินและใช้เงิน (ที่ได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 66) อาจไม่ได้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่แรก หากแต่รัฐบาลสามารถนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งานให้ลึกขึ้น (เป็นประโยชน์มากขึ้น) จะทำให้ประชาชนเห็นได้ว่าเงินไหลไปสู่ที่ไหนได้บ้าง
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ แสดงความคิดเห็นในเชิงกฎหมายเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินของรัฐบาลที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจจะทำได้จริงหรือไม่? แท้จริงแล้วการใช้นโยบายนี้จำเป็นต้องใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา จึงจะได้ผลลัพธ์ตามคาด ในขณะที่ปัจจุบันอาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมกับนโยบายนี้
นายสิทธิพล หรือ หนูเนย ได้ยกตัวอย่างนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เปรียบเทียบเป็นโปรเจกต์หนึ่งของธุรกิจ ในมุมมองของนักพัฒนา เราจะนำเทคโนโลยีใดมาใช้ในโปรเจกต์นี้เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์มากที่สุด สิ่งสำคัญคือการนำวัตถุประสงค์ของโปรเจกต์นั้นเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่นำเทคโนโลยีเป็นที่ตั้ง ในโลกนี้ยังมีเทคโนโลยีนอกเหนือจากบล็อกเชนที่สามารถนำมาใช้กับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
https://youtu.be/bTBffsGWoqY