นายจรีญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศ บมจ.ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ (SORKON) เปิดเผว่า บริษัทได้ส่งทีมไปศึกษาตลาดและร่วมพัฒนากับพันธมิตรในการตั้งฐานการผลิตในสหรัฐ ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าในไตรมาส 1/67 จะเริ่มเห็นยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยบริษัทนำเอาสินค้าดั้งเดิมไปจัดจำหน่าย อาทิ แหนมหมูยอ ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้นหมู และลูกชิ้นเนื้อ
ส่วนในจีน บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรในการจำหน่ายสินค้า รวมทั้งเจรจารัฐวิสาหกิจและรัฐบาลในการตั้งโรงงานผลิต เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดในการลงทุนร่วมกัน โดยจะนำผลิตภัณฑ์แหนมไปขายเป็นสินค้าแรก คาดว่าจะรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางปี 67 โดยในปีแรกน่าจะรับรู้รายได้ราว 5 ล้านหยวน หรือประมาณ 24 ล้านบาท และรายได้จะเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ตลาดยุโรปที่บริษัทมีฐานการผลิตอยู่แล้ว ในปี 67 มีแผนในการขยายตลาดใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมจำหน่ายสินค้าในช่องทางร้านขายของเอเชียเป็นหลัก ซึ่งจะขยายช่องทางร้านอาหารของคนเอเชียมากขึ้น
บริษัทวางแผนปี 67 ผลักดันรายได้ให้เติบโต 10% ซึ่งจะมาจากการขยายช่องทางจัดจำหน่ายของธุรกิจกลุ่มอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยจะขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งจากสถานการณ์ราคาหมูที่ดีขึ้น ซึ่งคาดว่าไตรมาส 1/67 จะเติบโตสูงกว่าทุกไตรมาสในปี 66
บริษัทคาดว่ายอดขายจากสัตว์บกจะเพิ่มมากขึ้นในปีหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากช่องทางธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิม โดยในต้นปีจะเริ่มกระจายสินค้าให้ได้ทั่วประเทศ ขณะที่ในช่องทางตลาดสดบริษัทจะใช้บริษัทในเครือ คือ บริษัท มหาชัยฟู้ดส์ จำกัด เพื่อกระจายสินค้าให้มากขึ้น
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร Quick Service Restaurant (QSR) บริษัทคาดว่าช่วงสิ้นเดือนมีโอกาสสูงมากในการทำกำไรได้เป็นครั้งแรก หลังบริษัทได้ปรับปรุงสูตรการผลิตใหม่ รวมทั้งบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ขับเคลื่อนการเติบโตให้กับบริษัทได้ในอนาคต
ด้านธุรกิจฟาร์มหมูในไตรมาส 3/66 มีรายได้จากการขาย 54.1 ล้านบาทลดลง 46.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาตลาดหมูลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้บริหารจัดการโดยต้องขายหมูขุนให้ได้ทั้งหมด จากปัจจุบันขายลูกหมูอนุบาลและลูกหมูหย่านมรวมกันอยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งราคาค่อนข้างผันผวนมาก บริษัทวางแผนเพิ่มเล้าหมูเพื่อให้สามารถเลี้ยงหมูขุนได้สูงสุด 800 ตัวต่อเล้า ซึ่งจะขยายทั้งหมด 8 เล้าตั้งแต่เดือนพ.ย.66-ก.พ.67
ขณะที่การบริหารต้นทุนเรื่องค่าแรง ซึ่งจะมีการปรับเพิ่มขึ้นบริษัทวางแผนในการนำ Automation เข้ามาทดแทนแรงงานคนมากขึ้น โดยในปี 67 จะใช้แรงงานคนน้อยลง 23% โดยบริษัทใช้งบลงทุนราว 300 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนใน Automation เป็นหลัก รวมทั้งการลงทุนในการขยายช่องทางในต่างประเทศ