นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ออกข้าง ระยะสั้นอาจลุ้นรีบาวด์ได้บ้างหลังปรับตัวลงแรงต่อเนื่องและ Indicator ค่อนข้าง Oversold แต่อาจจะรีบาวด์ไม่แรงเพราะ Sentiment ของตลาดวันนี้ยังไม่มีสัญญาณบวกที่ชัดเจน โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นยังมีความพยายามที่จะทรงตัวบริเวณเหนือแนวรับจุดต่ำสุด(Low)เดิม
ขณะที่วันนี้นักลงทุนรอติดตามศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และติดตามแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/66 ที่จะทยอยประกาศ รวมถึงการแถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 66-67 หลังมีกระแสข่าวเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 น่าจะขยายตัวได้ 1.8% ต่ำกว่าที่นักลงทุนประเมิน ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนน่าจะไม่ค่อยดีทำให้ตลาดปรับตัวลงมา อย่างไรก็ตามต้องติดตามความชัดเจนในประเด็นดังกล่าวต่อไป
ส่วนปัจจัยต่างประเทศนักลงทุนยังรอติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/66 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
โดยให้กรอบดัชนีแนวรับแรกที่ 1,350 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,320 จุด และแนวต้าน 1,366 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ม.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,905.45 จุด ลดลง 96.36 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,864.60 จุด เพิ่มขึ้น 14.17 จุด หรือ +0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,425.94 จุด เพิ่มขึ้น 65.66 จุด หรือ +0.43%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,602.45 จุด เพิ่มขึ้น 248.47 จุด หรือ +1.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,782.14 เพิ่มขึ้น 11.16 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,415.66 จุด ลดลง 101.91 จุด หรือ -0.28%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ม.ค.) ที่ 1,356.54 จุด ลดลง 13.38 จุด (-0.98%) มูลค่าซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,032.67 ล้านบาท (23 ม.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(23 ม.ค.) ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ม.ค.) อยู่ที่ 8.25 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.69 แนวโน้มผันผวนทิศทางอ่อนค่า กังวลศก.- จับตาตัวเลข PMI หลายปท.
- ผู้ว่า ธปท.ย้ำชัดกับสื่อนอก นโยบายการเงินเป็นกลาง เศรษฐกิจไทยไม่วิกฤติ "ไอเอ็มเอฟ" เพิ่มเป้าจีดีพีปีนี้โต 4.4% จากเดิม 3.2% หนุนจุดยืนนโยบายการเงินแบงก์ชาติ ห่วงเศรษฐกิจอยู่ช่วงขาลง ขาดวินัยการคลังทำลายเสถียรภาพเศรษฐกิจ "โฆษกรัฐบาล" เผยแพร่เอกสารกระทรวงคลัง ชี้เศรษฐกิจปี 66 โตแค่ 1.8% ต่ำกว่าแบงก์ชาติคาด "ซีไอเอ็มบีไทย-เคเคพี" ห่วงเศรษฐกิจไทยชะลอตัว
- พาณิชย์เผยปี 66 ยอดตั้งบริษัทใหม่ ทะลุ 8.5 หมื่นราย ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5.6 แสนล้านบาท คาดปี 67 ตั้งใหม่แตะ 9.5 หมื่นราย ต่างชาตินำเงินมาลงทุน 1.4 แสนล้าน ด้าน "จีน" อันดับ 1 แห่เที่ยวไทย
- จับตา 'พีระพันธุ์' เคาะมาตรการบริหารราคาเบนซินในสัปดาห์นี้ เผยอาจยกภาระให้กองทุนน้ำมันฯ หลังมาตรการลดภาษีจากคลัง 1 บาทจะครบกำหนด 31 ม.ค.นี้ หวั่นไม่มีข่าวดี หนุนราคาน้ำมันขึ้น 50-80 สตางค์/ลิตร
- องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้สถานะ สส. "พิธา" ปมถือหุ้นสื่อไอทีวีวันนี้ เจ้าหน้าที่วางมาตรการเข้ม สกัดกลุ่มป่วน ด้านเจ้าตัว เตรียมไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตน เอง "สมชาย" ยก 4 เหตุผล ทำไมไอทีวียังเป็นสื่อ เชื่อพิธาเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้าม ขาดคุณสมบัติเป็น สส. อีกด้านมีความเห็นไอทีวี ไม่เป็นสื่อแล้ว ส่งผลไม่มีลักษณะต้องห้าม ทีมกฎหมายก้าวไกลสุดมั่นรอดแน่ เผยพร้อมกลับเข้าสภาฯ ทำงาน
- "ภูมิธรรม" ยันไม่มีการปรับ ครม.ในช่วงนี้ ส่วนโควตาที่ว่างให้ไปถามนายกฯ ย้ำไม่เคยพูดดึงประชาธิปัตย์เข้าร่วม ด้าน "พี่ศรี" ร้อง กกต.ไล่บี้กรณีซุกหุ้น"ศักดิ์สยาม-ภูมิใจไทย" ต้องถึงยุบพรรคหรือไม่
*หุ้นเด่นวันนี้
- TU (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 20 บาท มองข้ามผลขาดทุนจำนวนมากในไตรมาส 4/66 สู่แสงสว่างที่สดในปี 67 เพราะปีนี้จะไม่มี Red Lobster คอยฉุดกำไร ส่วนวันนี้มี Sentiment บวกค่าเงินบาทอ่อนค่า, ด้านต้นทุนทูน่าลดลงแตะระดับ 1,450$/ton ต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง
- BH (เมย์แบงก์ฯ) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 250 บาท ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/66 มีโอกาสขยายตัว YoY จากผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY และ Revenue Intensity ของการรักษาที่สูงขึ้น จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนราคาหุ้น แนวโน้มกำไรปี 67 จะยังมีทิศทางเติบโตต่อจากผู้ป่วยต่างชาติที่ยังมีโอกาสขยายฐาน อาทิ ซาอุดิอาระเบียและประเทศอื่นๆ รวมถึงการเปิดตึกที่ Annex ช่วงกลางปีนี้ที่จะช่วยเพิ่ม Capacity รองรับผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้น ส่วนความเสี่ยงสงครามตะวันออกกลางผลกระทบจำกัด ส่วนระยะสั้นที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมองเป็น Sentiment บวกทางอ้อมต่อ BH เช่นกัน
- SPA (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.90 บาท บริษัทรายงานกำไรงวด 9M66 ที่ 192 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรจากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง สอดคล้องกับการท่องเที่ยวไทยที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังรัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายไตรมาส 3/66 และมีโมเมนตัมหนุนผลประกอบการดีต่อเนื่องใน ไตรมาส 4/66-1/67 ซึ่งได้แรงหนุนมาตรการฟรีวีซาชาวจีนและ high season ท่องเที่ยว สำหรับธุรกิจปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดทั้งหมด 69 สาขา พนักงานนวดมากกว่า 1,200 คน แนวโน้ม GPM ดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 275 ล้านบาท (พลิกกำไร) และ 333 ล้านบาท (+21%YoY) ตามลำดับ