นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยกลับทิศเป็นขาลง หุ้นที่ยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีไม่ปรับตัวลงมากตามตลาดโดยรวมคือ หุ้นคุณภาพสูง (Quality Equity) เพราะหุ้นประเภทนี้มักจะมีงบการเงินที่แข็งแกร่ง ปัจจัยพื้นฐานดี และเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่งในปี 2567 นักวิเคราะห์หลายค่ายประเมินว่าเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ดังนั้น เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้ลูกค้า ให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ควอลิตี้ อิควิตี้ (TGQUALITY) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TGQUALITY-A) และชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TGQUALITY-SSF) ลงทุนใน iShares Edge MSCI World Quality Factor UCITS ETF ชนิดหน่วยลงทุน USD (Acc) (กองทุนหลัก) วัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI World Sector Neutral Quality ซึ่งสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดกลางและขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่มีปัจจัยทางด้านคุณภาพอยู่ในระดับสูง เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก ผู้จัดการกองทุนจะใช้เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นผ่าน 3 ปัจจัยคือ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ในระดับสูง อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) ต่ำ และกำไรมีเสถียรภาพ โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 พบว่าหุ้น 10 อันดับที่กองทุนหลักเข้าลงทุนล้วนแต่เป็นหุ้นชั้นนำที่รู้จัก เช่น Microsoft , Apple Inc., NVIDIA, Visa, Meta และ Alphabet เป็นต้น
"กองทุน TGQUALITY เหมาะสำหรับเป็นกองทุนหลักของพอร์ตการลงทุน เพราะหากใช้ดัชนี MSCI World Sector Neutral Quality เป็นตัวแทนของกองทุนเทียบกับดัชนี MSCI World ซึ่งนักลงทุนมักจะลงทุนในดัชนีนี้เป็นกองทุนหลักของพอร์ตการลงทุน จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2541 - เดือนธันวาคม 2566 โดย บลจ.ทิสโก้ พบว่าในช่วง 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ดัชนี MSCI World Sector Neutral Quality มีอัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ดีกว่าดัชนี MSCI World และมีความผันผวนในระดับใกล้เคียงกัน " นายสาห์รัช กล่าว