นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 1/67 เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ คือ Easy e-Receipt เห็นได้จากลูกค้าที่เข้ามาใช้จับจ่ายใช้สอยในสาขาต่างของ CRC ทำ Transaction ขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก สะท้อนภาพความคึกคักในช่วงต้นปีที่สามารถช่วยกระตุ้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงให้ออกมาจับจ่ายใช้สอย ถือว่าใช้เงินภาครัฐสนับสนุนไม่มากแต่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี และปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนยอดขายและผลงานของ CRC เติบโตต่อเนื่องในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม มองว่าภาครัฐยังสามารถใช้มาตรการกระตุ้นและดึงกำลังซื้อของกลุ่มกำลังซื้อสูงออกมาได้อีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และธุรกิจค้าปลีกไทย รวมถึงการหาแนวทางในการทำให้ยอดการใช้จ่ายต่อหัว (Spending) ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการที่แก้กฎหมายเกี่ยวกับการคิดภาษีบางประเภท เพื่อทำให้สินค้ามีราคาถูกลง หรือการให้เขตพื้นที่พิเศษปลอดภาษีเพิ่มเขึ้นเพื่อทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าช็อปปิ้งในประเทศไทยมากขึ้น เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเน้นแค่ใช้จ่ายในที่พักและร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ค่อยซื้อสินค้า เพราะสินค้าที่ขายในไทยราคาสูงกว่าต่างประเทศ นายญนน์ ยังสนับสนุนแนวความคิดของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ขอให้ภาครัฐพิจารณาทบทวนการยกเว้นบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่มียอดไม่เกิน 1,500 บาท เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้ประกอบการไทย และขอให้ทบทวนนโยบายและเงื่อนไขในการใช้สิทธิประโยชน์ใน Free Trade Zone รวมทั้งการออกมาตรการปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ เช่น การนำมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนตลาด (Anti-Circumvention : AC) มาบังคับใช้ การเพิ่มความเข้มงวดการตรวจจับสินค้าที่นำเข้าผ่านด่านศุลกากร และการเร่งออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมให้ครอบคลุม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ หลังจากปัจจุบันเผชิญกับสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้ามามาก