HILITE: JMT พุ่ง 7% นำกลุ่ม JMART รับงบ Q4/66 ทะยาน 10% YoY สวยเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 13, 2024 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

JMT บวกนำกลุ่ม JMART เมื่อเวลา 10.00 น. JMT ปรับตัวขึ้น 7.49% มาที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 129.30 ล้านบาท

JMART บวก 5.26% มาที่ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 34.28 ล้านบาท

SINGER บวก 4.85% มาที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17.99 ล้านบาท

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 66 เป็นไปตามเป้าหมาย กำไรทำ All Time High ต่อเนื่องที่ 2,011 ล้านบาท เติบโต 15% จากปี 65 โดยรายได้รวม 5,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% มาจากรายได้ที่ทำสัญญากับลูกค้า รายได้ดอกเบี้ย-กำไรจากเงินให้สินเชื่อการซื้อลูกหนี้ และรายได้รายรับประกันภัยเพิ่มขึ้น

บริษัทมียอดจัดเก็บกระแสเงินสด (Cash Collection) รวมส่วนของบริษัทและของบริษัทร่วมทุน JK AMC ในปี 66 เท่ากับ 8,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% แม้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ด้วยการบริหารจัดการที่รัดกุม นำเทคโนโลยีและแอปพลิเคชั่นเข้ามาสนับสนุน และความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำธุรกิจ AMC มีหนี้ในพอร์ตที่ซื้อมาบริหารในช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังสามารถดำเนินการจัดเก็บและสร้างผลตอบแทนให้กับ JMT ได้จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ปี 66 JMT ทำสถิติเป็นปีที่ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารมากที่สุด โดยใช้เงินลงทุนในการซื้อหนี้รวมทั้งปีที่ 7,311 ล้านบาท และยังมองปี 67 เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจบริหารหนี้ตั้งเป้างบลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพอย่างระมัดระวัง โดยจะคัดเลือกลงทุนในหนี้ด้อยคุณภาพที่มีผลตอบแทนสูงที่สุด

บล.ทรีนีตี้ มองราคาหุ้น JMT มีโอกาสตอบรับเชิงบวกในระยะสั้นต่อกำไรไตรมาส 4/66 ที่ออกมา 540 ล้านบาท ดีกว่าเราคาดประมาณ 9% โดยยอดจัดเก็บปรับตัวดีกว่าที่คาดไว้ราว 12% ด้านส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ดีกว่าคาดราว 45% ทั้งนี้ ยังคาดกำไรปี 67 เติบโตราว 16%YoY มาอยู่ที่ 2,320 ล้านบาท โดยอาจมีการปรับประมาณการอีกครั้งภายหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์ในวันนี้ เบื้องต้น แนะนำ "ซื้อ" ในเชิงพื้นฐานเช่นเดิม ราคาเป้าหมาย 40 บาท

ส่วน บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมอง Slightly Positive ต่อกำไรสุทธิของ JMT ในไตรมาส 4/66 ที่ 540 ล้านบาท สูงกว่าเราและตลาดคาด 4% และ 5% ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10%y-y และ 16%q-q สาเหตุหลักจาก Cash collection ทำได้ดีขึ้น เป็นไปตามพอร์ตหนี้เสียมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะพอร์ตหนี้ส่วนมากที่ซื้อเข้ามาในปี 66 เป็นแบบไม่มีหลักประกัน ประกอบกับปัจจัยทางด้านฤดูกาล

ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67-68 และราคาเป้าหมายเดิมปี 67 ที่ 34.50 บาท อิง PBV24F ที่ 1.8 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ย -1.6 S.D.) และคงคำแนะนำ Buy เนื่องจากมองราคาปัจจุบันได้รับรู้ปัจจัยลบไปมากแล้ว โดยปัจจุบันซื้อขาย PBV24F ที่ 1.3 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ย -1.8 S.D.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ