KBTG ทุ่มงบลงทุน 8-9 พันลบ. มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย AI รองรับยุทธศาสตร์ 3+1

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 22, 2024 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

KBTG ทุ่มงบลงทุน 8-9 พันลบ. มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย AI รองรับยุทธศาสตร์ 3+1

นายเรืองโรจน์ พูลผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายใหม่ในการขับเคลื่อนองค์กรอีก 3 ปีข้างหน้า สู่ระดับโลกด้วย Human-first x AI-first Transformation รองรับยุทธศาสตร์ 3+1 ของธนาคารกสิกรไทย ในการสร้างสรรค์กลผลิตด้านไอทีที่เป็นประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ทั้งนี้ KBTG ตั้งเป้าที่จะขยายศักยภาพขององค์กรด้วย Al โดยคงมนุษย์เป็นจุดศูนย์กลาง เรียกว่า Human-first x Al-first Transfomaion เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีแผนการ คือ

1. ขยายขีดความสามารถด้านไอทีและเทคโนโลยีสูระดับโลก

2. เดินหน้าต่อเนื่องสู่การเป็น AI-First Organization ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ขับเคลื่อนด้วย Al รวมถึงปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร

3. ขับเคลื่อนความสามารถในการผลิตด้วย M.A.D. โดยตั้งเป้าหมายที่ 1 แสน Man Days และทำงานเร็วขึ้น 2 เท่าภายใน 3 ปี

4. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถด้าน AI ให้กับพนักงาน KBTG รวมไปถึงบุคคลทั่วไป (AI For All)

5. Transform สู่การเป็นองค์กรเทคโนโลยีระดับภูมิภาคแบบเต็มตัว

6. พัฒนา KBTG ให้เป็นพื้นที่สำหรับคนที่มีฝีมือและไฝ่ฝันที่จะเติบโตในสายงานเทคโนโลยี

*วางงบลงทุน 8,000-9,000 ลบ.

นางวรนฺช เดชะไกศยะ Executive Chaiman KBTG กล่าวว่า KBTG ตั้งเป้าที่จะเป็นองค์กรเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาค พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 3+1 ของธนาคารกสิกรไทย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและล้ำสมัย เพื่อส่งมอบความเป็นเลิศทางด้านไอที การันตีด้วยแอปพลิเคชัน K PLUS ที่มีความพร้อมในการให้บริการมากถึง 99.99% สามารถครองตำแหน่งผู้นำทางด้าน Mobile Banking ได้อย่างยาวนาน

ในปี 67 ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเติบโตและเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนทางด้านยุทธศาสตร์ไอทีด้วยงบประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท เน้นที่การยกเครื่องระบบเครดิตจากต้นน้ำยันปลายน้ำ (Rearchitect E2E Credit), แพลตฟอร์มบริหารความมั่นคั่ง (Wealth Platform), Al, Credit Card และ Infrastructure as a Service โดยมีแผนการรองรับยุทธศาสตร์ 3+ 1 ด้วยนวัตกรรมเทคในโลยีของ KBTG ใน 4 ด้าน คือ

1. สร้างสรรค์ และส่งมอบคุณค่า (Delivering Value) ผ่านการลงทุนด้านไอทีเพื่อพัฒนาคุณภาพและการสร้างรายได้ใหม่ผ่านธุรกิจ S-Curve

2. เพิ่มความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการทำงาน (Enhancing Operation & Cost Efficiency) ทั้งในเรื่องงบ กระบวนการทำงาน คุณภาพ และการจัดการความเสี่ยง

3. อัพเดตพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มโอกาส (Boosting Technology Capabilities) ผ่านการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จาก Data, AI, Cloud และอื่นๆ พร้อมการปรับปรุงสถาปัตยกรรมระบบ เพื่อรองรับการให้บริการสินเชื่อของธนาคาร

4. ยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรในองค์กร (Uplifting People Capabilties) ด้วยการจัดสรรทรัพยากรเพิ่มความสามารถและช่องทางบ่มเพาะสู่การเป็นผู้นำ และตอกย้ำค่านิยมและวัฒนธรรม ONE KBTG

ในด้านการเติบโตในระดับภูมิภาค ทาง K-Tech และ KBTG Vietnam ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับธนาคารอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มให้บริการสินเชื่อและข้อมูลในจีน แอป K PLUS Vietnam ในเวียดนาม และล่าสุดจากที่ธนาคารได้มีการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน KBTG มีส่วนสำคัญในการยกระดับแพลตฟอร์มไอที โครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย และการกำกับดูแลของธนาคารแมสเปี้ยน เพื่อรองรับการให้บริการ อย่างมีประสิทธิภาพในอินโดนีเซีย

นายทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director KBTG กล่าวว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีอเนกประสงค์ (General-purpose Technology) ดูด้วยตาอาจจะไม่เห็น แต่อยู่ทุกที่ โดย KBTG ถือเป็นอีกหนึ่งผู้บุกบิกทางด้าน AI ในประเทศและภูมิภาค สร้างเป็น AI Ecosystem ในด้านต่างๆ ดังนี้

ด้านเทคโนโลยี KBTG Labs มีการทำวิจัยร่วมกับ MIT Media Lab อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 65 รวมถึงการออกแบบเทคโนโลยี เช่น ระบบเปรียบเทียบใบหน้า (Face Recognition) และยืนยันหน้าจริง (Face Liveness) ให้ล้ำสมัยและใช้งานง่าย โดยจากผลงาน Face Liveness ทำให้ปัจจุบัน KBTG เป็นองค์กรเดียวในเอเชียและองค์กรที่สามของโลกที่การรับรองระดับสูงสุด (Level 2) จากการทดสอบของ iBeta ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล พร้อมเปิดตัว FinLearn แพลตฟอร์มการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมฟีดแบ็คแบบเรียลไทม์

ด้านการค้า จากเทคโนโลยีที่ KBTG Labs วิจัยและพัฒนา สู่การนำเข้าสู่ตลาด กระบวนการนี้จะถูกดูแลโดย KX ซึ่งเป็น Venture Builder ในเครือ KBTG เพื่อให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับธุรกิจของตนได้ โดยมีจุดเด่นคือการที่ทีมผู้พัฒนาอยู่ที่ประเทศไทย จึงสามารถรองรับการใช้งานหรือเข้าแก้ไขในกรณีที่เกิดปัญหาได้ทันที

ปัจจุบันมีการเปิดตัว 2 แพลตฟอร์มและบริการทางด้าน AI คือ

  • AINU (อัยนุ) ผู้ให้บริการโซลูชัน AI นำร่องด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการยืนยันตัวตน 3 ฟีเจอร์เด่น คือ OCR (Optical Character Recognition) ระบบแปลงข้อมูลจากภาพ Liveness Detection ระบบยืนยันตัวตนใบหน้าจริงๆ ของตัวบุคคล และ Face Recognition ระบบเปรียบเทียบใบหน้าเพื่อการยืนยันตัวตน
  • Car AI เทคโนโลยี AI ตรวจสภาพรถยนต์แบบอัตโนมัติเพื่อประเมินความเสียหายจากรูปภาพ สำหรับธุรกิจประกัน ซื้อขายรถยนต์มือสอง และอื่นๆ

ด้านการลงทุน KXVC ได้มีการลงทุนในสตาร์ทอัพ AI และจับมือกับกองทุนด้าน Al ชั้นนำของโลกอย่าง AI FUND นำโดย Andrew Ng ผู้ก่อตั้ง Deep Learning AI พร้อมมุ่งสรรหาเทคโนโลยี Al ใหม่ๆ จากทั่วโลกมาช่วยเพิ่มกำลังทางธุรกิจ ร่นระยะเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีออกสู่ตลาด รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อสเกลธุรกิจ AI และเป็นประตูระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่นๆ อย่างยั่งยืนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ