PIN พุ่ง 21.78% มาที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท มูลค่าซื้อขายคึกคัก 342.23 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.57 น.จากราคาเปิด 5.80 บาท ราคาต่ำสุด 5.60 บาท ราคาสูงสุด 6.25 บาท ซึ่งเป็นราคา All Time High ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์วันที่ 9 พ.ย.64 ด้วยราคา IPO ที่ 3.90 บาท
บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PIN) รายงานว่า ในปี 66 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 2,876.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,773.1 ล้านบาท หรือ 160.7% และมีกำไรสุทธิ 1,354.8 เพิ่มขึ้น 1,030.1 ล้านบาท หรือ 317.2% เมื่อเทียบปี 65 โดยมียอดโอนที่ดินทั้งสิ้น 584 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่มีจำนวน 209.8 ไร่
ในปี 66 บริษัทมีผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม มาจากการย้ายฐานการผลิตจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศจีนกับสหรัฐฯ และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับบริษัทฯ มีศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งในเขตพื้นที่ EEC และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐานระดับสากล ประกอบกับการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิในปีนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
พร้อมกันนี้ ในปี 67 บริษัทตั้งเป้ายอดขายและโอนที่ดินเพิ่มขึ้น 25% หรือคิดเป็น 750 ไร่ จากปีก่อนมียอดขายและโอน 584 ไร่ โดย ณ สิ้นปี 66 บริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 108 ไร่ และมียอดจอง (Pre-sale) จำนวน 334 ไร่ คาดว่าจะทยอยโอนทั้งหมดในปีนี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจ Recurring Income จะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ จากปัจจัยสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเพื่อบริหารความเสี่ยงด้านความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ และการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ส่งผลดีต่อความต้องการซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองกราฟ PIN ว่าราคา rebound จากแนวรับเส้น uptrend ประกอบกับเกิดสัญญาณบวกจากเส้น MACD ที่อยู่เหนือเส้น Signal มองว่าน่าเก็งกำไรในระยะสั้น เพื่อคาดหวังการปรับตัวขึ้น