GABLE ตั้งเป้าปี 67 รายได้ All Time High ต่อ แย้มปิดดีลพาร์ทเนอร์ด้าน HCM ระดับโลก Q1/67

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 27, 2024 15:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จีเอเบิล เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปี 67 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 5-15% ทำ All Time High ต่อเนื่อง โดยมาจากการรับรู้รายได้จาก Backlog คาดว่าในปีนี้จะสะสม Backlog ราว 4,500-5,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ในปีนี้ 2,753 ล้านบาท รวมทั้งจะรักษาระดับ Gross Profit Margin ไว้ได้ที่ 20-22% และคงสัดส่วนรายได้ Recurring Income มากกว่า 50%

นอกจากนี้ บริษัทต้องการขยายไปสู่ Advance Business Application ให้มากขึ้น โดยจะเข้าไปจับมือกับพาร์ทเนอร์ด้าน Human Capital Management Software (HCM) รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งมีผู้ใช้งานทั่วโลกถึง 65 ล้านคน และบริษัทจะเป็นผู้จัดหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในไตรมาส 1/67 โดยการจับมือดังกล่าวไม่ได้ใช้เงินลงทุนในการทำดีล แต่อาจต้องลงทุนในส่วนของการสร้างทีมงาน คาดว่าผลตอบแทนในระยะยาวจะคุ้มค่า

รวมทั้งบริษัทยังมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่ตอบโจทย์ธุรกิจของบริษัท ทั้งในรูปแบบ JVและM&A อาทิ ERP (Enterprise resource planning) และ CRM (Customer relationship management) ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง และเพื่อทำให้องค์กรของลูกค้าเป็น Smart organization โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับหลายดีล ซึ่งอาจจะเห็นการปิดดีลได้ในไตรมาส 1/67

ขณะที่บริษัทมีเงินทุนจาก IPO ราว 600 ล้านบาท รวมทั้งกระแสเงินสด (cash flow) ประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาต่อยอดการเติบโตในอนาคต ภายใต้กรอบ Investment Framework ที่มุ่งเน้น 3 เรื่องหลัก 1. Right Product Right Technology 2. Win-Win Business Synergy 3. Right Price Right Value

และกลยุทธ์การนำ Core Business ของบริษัทในส่วนธุรกิจ Enterprise Solutions and Services ที่มี 5 พอร์ตหลัก ได้แก่ Data analytics, Cloud, Cybersecurity, Application Development และ Managed Tech Services รวมกับ IP platform ของบริษัทเข้าไปช่วยเตรียมความพร้อมเรื่อง AI Ready Data และ AI Ready Security เพราะยิ่งเทรนด์ AI และ Cybersecurity มีความต้องการสูง ก็จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทมากขึ้น

ทั้งนี้บริษัทเล็งเห็นโอกาสการเติบโตจากเทรนด์ AI ที่มีบทบาทกับองค์กรธุรกิจมากขึ้น ทุกธุรกิจองค์กรจะต้องพัฒนาระบบให้เป็น AI Ready Organization ทั้งระบบ ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานไอทีบนคลาวน์ การทำระบบ Data Analytics ผ่านซอฟต์แวร์ Big Data Platform รวมไปถึงการวางระบบ Cybersecurity ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกระบบในองค์กรทั้ง Front Office และ Back Office มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับ AI ในอนาคต

เทรนด์ AI ที่จะเข้ามาสร้างโอกาสเติบโตให้กับจีเอเบิล และอีกหนึ่งโอกาสการเติบโตที่สำคัญ คือ การสร้าง Smart Organization ผ่าน Business Application โดยเฉพาะ Human Capital Management Software (HCM) เพราะทรัพยากรสำคัญ ที่สำคัญ คือ "คน" จากข้อมูลของการ์ทเนอร์ เผยถึงการเติบโตเฉลี่ยของตลาด HCM ในอีก 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 18% เนื่องจากองค์กรต้องการสร้างความสามารถทางการแข่งขันผ่านการสร้างและพัฒนา Talent ซึ่งซอฟแวร์แพลตฟอร์มจะช่วยยกระดับองค์กรในการเอา Big Data และ AI มาใช้ทำ Talent Analytics, Skill Management และ สร้าง Productivity และ Efficiency ของพนักงานแต่ละส่วนงาน

นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ GABLE กล่าวว่าในปี 66 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 5,338 ล้านบาท เติบโตจากปี 65 ราว 13% โดยมาจากการเติบโตของทุกส่วนธุรกิจ โดยเฉพาะ Software Platform ที่เติบโตจากปี 66 ถึง71% ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทจากธุรกิจ Enterprise Solution 74.4% ซึ่งรายได้โต 10% จากปีก่อน ธุรกิจ Value Added Distribution มีสัดส่วนรายได้ 23.3% ซึ่งในปี 66 รายได้เติบโต 15% และธุรกิจ Software Platform ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 2.3% โดยบริษัทยังเห็นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ Software Platform ต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้ธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตมากกว่า 50% นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มการเงิน ซึ่งมีสัดส่วน 43% การให้บริการ 25% และเทเลคอม 10 % ซึ่งกลุ่มดังกล่าวยังมีการเติบโตต่อเนื่อง

บริษัทเข้าไปรุกตลาดใหม่ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ (Healthcare) ซึ่งปีที่ผ่านมามีการเติบโตค่อนข้างดี และต่อเนื่องมาถึงปีนี้ที่ยังมีความต้องการด้าน Healthcare ค่อนข้างสูง ขณะที่อยู่ระหว่างการศึกษา Platform ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของโรงพยาบาล โดยใกล้จะปิดดีลแรกในโรงพยาบาลต่างจังหวัด

ขณะที่การขยายไปในต่างประเทศ ธุรกิจที่จะสามารถนำไปรุกในตลาดดังกล่าวได้คือ SaaS (Software as a Service) โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่บริษัทเป็นเจ้าของ IP Platform เอง โดยบริษัทมองตลาดเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดที่ร้อนแรงและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยบริษัทได้เริ่มเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าในประเทศเหล่านั้นอยู่ ซึ่งสามารถเติบโตได้ง่าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ