นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น (KCG) กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตปี 67 เป็นตัวเลข 2 หลักหรือ Double Digits โดยแผนการดำเนินธุรกิจจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด และเดินหน้าสร้างยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโตของลูกค้าหลักทั้งช่องทางการขายกลุ่มผู้ประกอบการ (B2B) และช่องทางการขายกลุ่มผู้บริโภค (B2C) รวมถึงการขยายตัวของการส่งออก
พร้อมกับทรานส์ฟอร์มองค์กร โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ขับเคลื่อนองค์กร (Digital Transformation) เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการทำงานให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว และลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ประกอบกับการเริ่มใช้ KCG Logistics Park ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าในช่วงปลายไตรมาส 1/67 ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง สอดรับกับจังหวะภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารตะวันตก เนยและชีส ปี 2567 ที่มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก
สำหรับผลการดำเนินงานปี 66 บริษัททำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งกำไรสุทธิและรายได้จากการขายสูงสุดในรอบ 65 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งธุรกิจในปี พ.ศ. 2501 โดยมีกำไรสุทธิ 305.9 ล้านบาท เติบโต 26.9% และรายได้จากการขายอยู่ที่ 7,157.0 ล้านบาท เติบโต 16.2% เนื่องจากดีมานด์อาหารตะวันตก เนยและชีสของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ประกอบกับการวางกลยุทธ์นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด รวมถึงมียอดขายจากบริษัท อินโดกูนา (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มขึ้น
โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมีรายได้ 4,086.5 ล้านบาท เติบโต 15.0% ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มีรายได้ 2,061.1 ล้านบาท เติบโต 15.3% และผลิตภัณฑ์บิสกิตมีรายได้ 1,009.3 ล้านบาท เติบโต 23.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนช่องทางการขายแก่ผู้ประกอบการ (B2B) มียอดขาย 2,892.7 ล้านบาท เติบโต 14.2% ในขณะที่ช่องทางการขายแก่ผู้บริโภค (B2C) มีรายได้ 3,938.6 ล้านบาท เติบโต 17.7% และช่องทางการส่งออกมียอดขาย 325.7 ล้านบาท เติบโต 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน