นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ด ขสมก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก.มีมติรับทราบการบรรจุโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (รถโดยสาร EV ) จำนวน 3,390 คัน เพื่อทดแทนรถเก่าที่มีอายุใช้งานมากกว่า 30 ปี ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ ขณะนี้เป็นโครงการจัดหาฯ ระยะที่ 3 เข้าสู่แผนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 (PPP)
ขั้นตอนจากนี้ ขสมก.จะขอเงินจากกองทุน PPP เพื่อจ้างที่ปรึกษาการดำเนินการศึกษาการร่วมลงทุนตามเงื่อนไข PPP คาดว่าใช้เวลาศึกษา 2-3 เดือน และเข้าสู่กระบวนการ PPP คัดเลือกเอกชนต่อไป
ส่วนโครงการจัดหาฯ ระยะที่ 1 จำนวน 350 คัน ซึ่งตามแผนจะใช้วิธีการจัดหาแบบเฉพาะเจาะจงเพราะมีความจำเป็นเร่งด่วน และระยะที่ 2 จำนวน 1,520 คัน ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) นั้น ที่ประชุมบอร์ดฯ มอบหมายให้ ขสมก.เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ก่อน เพื่อให้เกิดความรอบคอบ คาดว่าจะเสนอบอร์ดได้ในเดือนหน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดฯ ยังเห็นชอบให้ ขสมก.กู้เงินเพื่อชำระหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดและเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบประมาณ 2568 รวมเป็นเงิน 30,025.66 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.จ่ายคืนต้นเงินกู้ 21,484.93 ล้านบาท 2.เสริมสภาพคล่องทางการเงิน 8,540.73 ล้านบาท แยกเป็น ค่าเชื้อเพลิงรถโดยสาร 2,494.85 ล้านบาท ค่าเหมาซ่อมรถโดยสาร 1,662.19 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องทางการเงิน 4,383.69 ล้านบาท รวมถึงรับทราบการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ประจำปีงบประมาณ 2568 ตามหลักเกณฑ์การคำนวณต้นุทนมาตรฐานตามที่คู่มือของ สคร.กำหนดจำนวน 5,735 ล้านบาท